ประเทศไทยเองก็มีบทบาทสำคัญบนเส้นทางนี้ผ่าน Thailand National Coffee Championship (TNCC) ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับประเทศที่ใช้เกณฑ์เดียวกับเวทีโลก และจัดขึ้นทุกปีในงาน Thailand Coffee Fest และ Thailand Coffee Fest Year End โดยเวทีนี้จะเป็นการเฟ้นหาตัวแทนไทยไปแข่งขันในระดับโลก ซึ่งทุกครั้งที่เปิดรับสมัคร จะได้รับความสนใจจากผู้สมัครจำนวนมากและเต็มภายในไม่กี่นาที จนต้องเพิ่มรอบคัดเลือกเพื่อให้คนกาแฟหน้าใหม่มีโอกาสอย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ยังได้เชิญกรรมการจากเวทีระดับโลกมาร่วมตัดสินในหลายรายการ เพื่อสร้างมาตรฐานให้กาแฟไทย และเตรียมนักแข่งไทยให้พร้อมสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ
นายช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด ผู้จัดงาน Thailand Coffee Fest ผู้ถือลิขสิทธ์ตัวแทนจัดการแข่งขัน World Coffee Championship 5 รายการ ในประเทศไทย กล่าวว่า "การที่คนไทยสามารถคว้าแชมป์กาแฟในเวทีโลกได้มากขึ้น ไม่ได้เป็นเพียงความสำเร็จของบุคคล แต่คือสัญญาณสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมกาแฟทั่วโลกเริ่มหันมามองประเทศไทยในฐานะประเทศผู้เล่นที่จริงจัง นี่คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาซัพพลายเชนกาแฟไทยอย่างเป็นระบบ และการขยายศักยภาพของกาแฟไทยสู่ตลาดนานาชาติ"
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการกาแฟไทยเติบโตและพัฒนาขึ้นจนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทุกคนสัมผัสได้ผ่านแก้วกาแฟทุกแก้ว ไม่ใช่แค่เพราะ "กาแฟไทยอร่อยขึ้น" แต่เป็นเพราะคนกาแฟจับมือก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน ตั้งแต่เกษตรกร คนคัดเลือก คนคั่ว ไปจนถึงบาริสต้าหรือพนักงานที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ ล่าสุดความสำเร็จนี้ได้งอกงามเป็นที่ประจักษ์ผ่านฝีมือ 3 แชมป์คนไทย ได้แก่ "บอส - ฉัตรเฉลิม เลิศเอนกวัฒนา", "นิกส์ - นฤพนธ์ วุฒิภาพภิญโญ" และ "แบงค์ - ศราวุธ หมั่นงาน" ที่ไปคว้ารางวัลจากหลากหลายสาขาทั้งในประเทศและระดับโลก ผู้เป็นเหมือนตัวแทนตัวสำเร็จก้าวสำคัญที่สะท้อนศักยภาพและมุมมองจาก 3 บทบาทในวงการกาแฟไทย ทั้งนักชิม คนคั่ว และลาเต้อาร์ต
นักชิมคนไทยคนแรกที่แยกรสกาแฟได้แม่นจนคว้าแชมป์โลก
ในโลกกาแฟ บทบาทของ "นักชิม" อาจไม่เป็นที่รู้จักเท่าบาริสต้าหรือคนคั่ว แต่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยประเมินคุณภาพเมล็ดกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำ โดย "บอส - ฉัตรเฉลิม เลิศเอนกวัฒนา" เป็นคนไทยคนแรกที่รับการยอมรับในระดับโลกในฐานะแชมป์ World Cup Tasters Championship และเป็นเพียง 1 ใน 2 คนบนโลกที่ทำสถิติแยกกาแฟถูกทุกแก้วตลอดการแข่งขัน ซึ่งจุดเด่นของบอสไม่ใช่แค่ประสาทสัมผัสที่รับรสไวกว่าใคร แต่คือการทุ่มเทฝึกซ้อมชิมกาแฟจากหลายประเทศ หลายระดับการคั่ว วันละหลายแก้ว ควบคู่กับงานประจำในฐานะบาริสต้าประจำร้าน Roots และต้องดูแลใส่ใจสุขภาพ เพราะสิ่งเล็ก ๆ อย่างการนอนหรือความเครียดล้วนส่งผลต่อความแม่นยำของประสาทสัมผัสและความทนทานในการชิมกาแฟจำนวนมาก ๆ
บอส - ฉัตรเฉลิม เผยว่า "หลายคนคิดว่าการชิมคือเรื่องของลิ้น แต่สำหรับผมมันคือเรื่องของสติ เพราะในสนามจริง เราไม่รู้เลยว่าจะเจอกาแฟแบบไหน รสอะไร หรือยากแค่ไหน สิ่งเดียวที่ควบคุมได้คือใจของเราเอง ถ้าเครียดหรือรีบเกินไป ต่อให้ชิมเก่งแค่ไหนก็หาคำตอบไม่เจอ"
แชมป์นักคั่วกาแฟที่ไม่เคยหยุดพัฒนา
ถ้านักชิมคือคนที่มองเห็นคุณภาพของเมล็ดกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำ "นักคั่ว" ก็เปรียบเหมือนผู้ปลดล็อกศักยภาพนั้นออกมาให้ชัดเจนที่สุด นิกส์ - นฤพนธ์ วุฒิภาพภิญโญ แห่ง Factory Coffee คือหนึ่งในคนที่ทำทุ่มเททำหน้าที่นี้อย่างจริงจังตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา จนคว้าแชมป์ประเทศไทยในรายการ Thailand National Coffee Roasting Championship 2025 จากงาน Thailand Coffee Fest 2025 และก้าวไปถึงรองแชมป์อันดับ 2 ของโลกบนเวที World Coffee Roasting Championship ซึ่งแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้นิกส์มายืนอยู่บนเวทีโลกไม่ใช่เพื่อล่ารางวัล แต่เกิดจากความรู้สึกว่าตัวเองเก่งไม่พอ จึงอยากพิสูจน์ตัวเองผ่านการแข่งขัน
นิกส์ - นฤพนธ์ เล่าว่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่เทคนิคการคั่ว แต่เป็นความกลัว ทั้งกลัวการเริ่มต้น กลัวทำพลาด และกลัวไม่เก่งพอ แต่เมื่อได้ลงสนามจริง ความกลัวนั้นกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เราเรียนรู้และเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เครื่องคั่วแบบไฟฟ้าเข้ามาแทนที่ระบบแก๊ส นักคั่วต้องหมั่นเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้ทันเสมอ ตั้งแต่การควบคุมความร้อนจนถึงการออกแบบรสชาติ เพราะการคั่วกาแฟคือการหาจุดที่พอดีของเมล็ดแต่ละตัว และไม่มีสูตรสำเร็จใดทำแทนประสบการณ์ได้"
ความสร้างสรรค์ ทุ่มเท และทีมเวิร์ก หัวใจของแชมป์ลาเต้อาร์ตไทย
แบงค์ - ศราวุธ หมั่นงาน จาก Sukhumvit Coffee เป็นหนึ่งในบาริสต้าที่เติบโตมาพร้อมกับวงการกาแฟของไทย และผ่านประสบการณ์การแข่งขันลาเต้อาร์ตในช่วงเวลาที่วงการยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากในไทย จนถึงวันที่ลาเต้อาร์ตกลายเป็นตัวแทนความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมของร้านกาแฟยุคใหม่ ประสบการณ์นี้ทำให้แบงค์สามารถคว้าแชมป์ Thailand National Latte Art Championship สองปีซ้อน และติดอันดับ Top 5 บนเวที World Latte Art Championship 2024
แบงค์ - ศราวุธ เผยถึงความท้าทายว่า "ในการแข่งขันไม่ใช่แค่การเทลายให้สวย แต่เป็นการรับมือกับกติกา เทรนด์ และสภาวะต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปทุกปี ทำให้ต้องฝึกซ้อมจนทุกจังหวะของการสตรีมนมและการเทลายกลายเป็น muscle memory เพื่อให้แก้วบนเวทีออกมาตรงตามที่ตั้งใจถึงแม้จะอยู่ในภาวะที่กดดันให้ได้ และที่สำคัญความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้เพราะมีทีมที่คอยช่วยกันคิด ทดลอง และแก้ปัญหาในทุกขั้นตอน เพราะทีมทำให้เรามองเห็นสิ่งที่เราไม่เห็น และทำให้เราไปได้ไกลกว่าที่คิด"
และทั้งหมดนี้คือภาพสะท้อนของวงการกาแฟไทยที่เติบโตจากความพยายามของผู้คนตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วน ตั้งแต่ฟาร์มบนดอยจนถึงบาร์กาแฟกลางเมือง ที่ทุกบทบาทล้วนสำคัญ และทุกความพยายามล้วนส่งต่อแรงบันดาลใจสู่คนรุ่นต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจอยากเห็นเส้นทางใหม่ของกาแฟไทยจะก้าวไปไกลแค่ไหนในปีหน้า สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของงาน Thailand Coffee Fest 2026 ได้ที่ เฟสบุ๊ก Thailand Coffee Fest คลิก https://www.facebook.com/ThailandCoffeeFest ity