การประชุมดังกล่าว ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแล อนุรักษ์ และใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และส่งเสริมให้ป่าชุมชนเป็นพื้นที่สำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจก สอดคล้องกับเจตนรมณ์ของประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าชเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero emission) ภายในปี 2065 กรมพัฒนาที่ดินมีบทบาทสำคัญ โดยได้บูรณาการองค์ความรู้ด้านทรัพยากรดิน น้ำ และข้อมูลสารสนเทศเชิงพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการวางแผนอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ป่าชุมชนและพื้นที่ต่อเนื่อง ช่วยลดการชะล้างพังทลายของดิน ฟื้นฟูระบบนิเวศต้นน้ำ เพิ่มการกักเก็บน้ำในดินและการปลดปล่อยน้ำท่า เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และลดปริมาณ ตะกอนที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำ ควบคู่กับการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้แก่ชุมชนในระยะยาว
นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ผ่านโครงการบริหารจัดการที่ดินในพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และส่งเสริมการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Go Green) ตามแนวทาง BCG / Carbon Credit โดยมุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม บรรเทาปัญหาฝุ่น PM 2.5 อาทิ ลดการเผาซังข้าว/ตอซัง ลดการเผาในพื้นที่เกษตร ลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารกำจัดศัตรูพืชและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในพื้นที่เกษตรกรรม