นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวถึง ความสำคัญของรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ในฐานะที่เป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งภาคการผลิต และภาคบริการ พร้อมตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 รวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 ระยะ 20 ปี ซึ่งมุ่งเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงให้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม มุ่งสร้างประสิทธิผลในเชิงผลลัพธ์ และเพิ่มผลิตภาพในวิสาหกิจขนาดใหญ่ ตลอดจนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs เป็นเครื่องมือยกระดับการบริหารจัดการ สามารถสร้างคุณค่า และเพิ่มผลิตภาพของทุกภาคส่วน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมเล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ต่อประเทศดังกล่าว จึงให้การสนับสนุนโครงการรางวัลคุณภาพแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้นายกอบชัย ยังให้เกียรติขึ้นเป็นผู้มอบรางวัล พร้อมกล่าวแสดงความยินดี และชื่นชมต่อความสำเร็จของทั้ง 8 องค์กรที่ได้รับรางวัลในปีนี้ว่า
"ในนามของกระทรวงอุตสาหกรรม ผมขอแสดงความยินดีกับทุกองค์กรที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ขอชื่นชมผู้บริหาร และบุคลากรทุกท่าน ที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานการจัดการองค์กรเพื่อให้เทียบเท่ากับองค์กรในระดับสากล รวมถึงขอชื่นชมในความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา และปรับปรุงองค์กรอย่างต่อเนื่อง อันส่งผลดีต่อความเข้มแข็งของประเทศในภาพรวม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ 'ประเทศไทย 4.0' เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งและเติบโตได้อย่าง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน"
พร้อมกันนี้ ผศ.ดร.อธิศานต์ วายุภาพ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ได้เผยว่า การจัดให้มีพิธีมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติอย่างต่อเนื่องทุกปีนั้น เกิดขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์ที่ต้องการประกาศเกียรติคุณให้แก่องค์กรที่มุ่งมั่นนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติไปประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานจนประสบผลสำเร็จ และได้รับรางวัล โดยนับตั้งแต่การก่อตั้งรางวัล ในปี 2545 จนถึงปัจจุบัน มีองค์กรที่ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ จำนวน 7 องค์กร และองค์กรที่ได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ จำนวน 116 องค์กร โดยในปีนี้มีองค์กรที่ได้นำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติไปใช้ และสมัครขอรับรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 26 องค์กรจากหลากหลายภาคส่วน
"รางวัลคุณภาพแห่งชาติ ถือเป็นรางวัลสูงสุดในการวัดระดับคุณภาพของระบบการบริหารจัดการองค์กรที่ทั่วโลกยอมรับ และเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติก็ถูกใช้เป็นบรรทัดฐานสำหรับการประเมินตนเองขององค์กร โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับองค์กรทุกประเภท ทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ หรือภาคเอกชน นอกจากนี้ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ ยังมีการปรับเปลี่ยนทุก 2 ปี ทำให้องค์กรที่นำไปประยุกต์ใช้รู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรและเรื่องใดบ้าง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารขององค์กร จึงสามารถใช้เป็นแนวทางในการกำหนดทิศทางขององค์กร ให้ทันกับสถานการณ์ทางธุรกิจอยู่เสมอ" ผศ.ดร.อธิศานต์ กล่าว
ตามด้วยการประกาศรายชื่อองค์กรที่ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่น และรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ โดย นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้มีองค์กรจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 8 องค์กร ได้แก่
รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA)
- ธนาคารออมสิน
รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม (Thailand Quality Class Plus: Innovation)
- กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านการปฏิบัติการ (Thailand Quality Class Plus: Operation)
- คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
รางวัลบริหารสู่ความเป็นเลิศ (Thailand Quality Class: TQC)
- กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ความมุ่งมั่น และความเพียรพยายามที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาตนเองขององค์กร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเช่นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรที่ได้รับรางวัลหรือไม่ได้รับรางวัล ก็ล้วนแล้วแต่คู่ควรกับการได้รับการชื่นชมด้วยกันทั้งสิ้น ด้านสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ในฐานะสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าภารกิจสำคัญ ในการขับเคลื่อนและเคียงข้างเพื่อยกระดับศักยภาพขององค์กรไทยให้เปี่ยมด้วยความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถ และขยายโอกาสในการแข่งขัน พร้อมนำพาองค์กรไทยให้ผ่านพ้นทุกอุปสรรค ทุกความไม่แน่นอน และมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในระดับสากล
ที่มา: สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ