บริษัทเผย ยอดขายก๊าซธรรมชาติ iCNG ให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ปริมาณการขนส่งก๊าซ iCNG ของบริษัทเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติและปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ขยับมาที่ระดับ 4,200 MMBTU ต่อวัน จากที่เคยตกลงต่ำสุดที่ 500 MMBTU ต่อวัน เมื่อปี 2563 จากสถานการณ์โควิดและการชะลอตัวของก๊าซธรรมชาติ
สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของยอดขาย iCNG มาจากปัจจุบันสังคมเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นต่อสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมกลับมาดำเนินงานได้เกือบ 100% และด้วยราคาต้นทุนน้ำมันที่ผันผวนและมีการปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบการจึงหันกลับมาเลือกใช้ iCNG ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติที่มีต้นทุนถูกกว่าและทั้งสะอาด มาทดแทนการใช้แหล่งเชื้อเพลิงแบบเก่า ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติกลับมาโตขึ้นสู่ระดับ new high ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่เข้ามาช่วยสนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ในปี 2563 ที่ผ่านมา แม้ว่าธุรกิจก๊าซธรรมชาติเกิดการชะลอตัวลง แต่บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ก็ยังสามารถสร้างกำไรได้ถึง 43.3 ล้านบาท ผลจากการรับรู้กำไรจากกลุ่มพลังงานหมุนเวียนเข้ามาทั้งปี จากทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ประเทศเมียนมาร์ ขนาด 220 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งยังคงรับรู้รายได้ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ และในปี 2564 นี้นอกจากโครงการทั้ง 2 ข้างต้นจะสามารถดำเนินงานไปได้อย่างราบรื่นแล้ว SCN ยังมีผลบวกจากกระแสและโอกาสของการเติบโตในธุรกิจก๊าซธรรมชาตินอกแนวท่อ (iCNG) ที่กำลังฟื้นอย่างน่าจับตามองเข้ามาช่วย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการของบริษัทในปี 2564 ประสบความสำเร็จอย่างเป็นประวัติการณ์
ที่มา: บางกอก ออทัม