เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 แบรนด์เดอะ เภรี โฮเต็ล ได้เปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ถึง 2 แห่งในประเทศไทย ในทำเลที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในระยะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ได้แก่ เดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่ และเดอะ เภรี โฮเต็ล หัวหิน โดยโรงแรมทั้ง 2 แห่งนี้สามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์ด้านการบริการของแบรนด์ซึ่งเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและจุดประกายการมีส่วนร่วมของผู้คน อีกทั้งยังเน้นย้ำ พันธกิจหลักเพื่อช่วยสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในละแวกโรงแรม
"เราได้ปั้นและเปิดตัวแบรนด์เดอะ เภรี โฮเต็ล ในช่วงที่เกิดโรคระบาด" อามาร์ ลาลวานี ซีอีโอ กลุ่มสแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว "นับเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้ง่ายดาย แต่การตัดสินใจเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นและมองสิ่งต่างๆ ในแง่บวกนั้นเป็นสิ่งที่มีความหมายสำหรับทีมงานของเราและภาคอุตสาหกรรม แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ท้าทายมากมาย การดำเนินงานของเดอะ เภรี โฮเต็ล เป็นไปอย่างสวยงาม และตอนนี้เราพร้อมแล้วที่จะขยายแบรนด์ให้เติบโตต่อไปอีกขั้น คอนเซ็ปต์ของแบรนด์เดอะ เภรี โฮเต็ลเป็นแนวคิดที่เหมาะสมอย่างยิ่งในช่วงเวลาเช่นนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่นักเดินทางต่างมองหาวิธีการที่จะกลับไปดื่มด่ำกับความสุขเล็กๆ ในชีวิตและเชื่อมต่อซึ่งกันและกันกับคนรอบตัว แบรนด์เดอะ เภรี โฮเต็ลช่วยสนับสนุนเจ้าของธุรกิจโรงแรมให้สามารถนำทรัพย์สินโรงแรมที่มีอยู่เดิมมาปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้เข้าพักรุ่นใหม่ๆ ที่ชื่นชอบสไตล์ของเรา"
โดยเดอะ เภรีโฮเต็ล นำเสนอการบริหารโรงแรมที่เป็นเอกลักษณ์อย่างโดดเด่นสำหรับเจ้าของธุรกิจโรงแรมที่มองหาการดำเนินการโรงแรมอย่างแตกต่างและเป็นอิสระ โดยชูความโดดเด่นด้านการเข้าถึงความคิดสร้างสรรค์แบบมีหลักการและการบริหารโรงแรมอย่างเป็นทีมของกลุ่มสแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนลที่ไม่มีใครเทียบติด มากกว่าที่จะเน้นการบริหารโรงแรมแบบโดยลำพัง
ทีมผู้บริหารของเดอะ เภรี โฮเต็ล ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับเจ้าของธุรกิจโรงแรมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการปรับปรุงและการดูแลการปฏิบัติงานเพื่อช่วยจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ แบรนด์เดอะ เภรี ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดที่สร้างสรรค์มากกว่าแค่การยึดถือตามหลักการ โดยแนวคิดนี้ยังรวมถึงแผนการปรับปรุงโรงแรมตามข้อตกลง ทำให้แบรนด์เดอะ เภรีมีความแตกต่างจากแบรนด์ที่กำกับดูแลโดยเครือโรงแรมใหญ่ๆ ซึ่งมีหลักเกณฑ์ที่เข้มงวด
แม้ว่าการเปิดตัวโรงแรมจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ท้าทายมากที่สุดเท่าที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเดินทางจะเคยประสบมา การดำเนินงานของเดอะ เภรี โฮเต็ล หัวหิน และเดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่ หลังการรีแบรนด์ได้แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งและประสิทธิภาพของการนำโรงแรมเดิมมาออกแบบใหม่ ตลอดถึงโปรแกรมต่างๆ อันครบรส และโครงสร้างของแพลตฟอร์มจากเดอะ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนลที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยส่งเสริมทั้งธุรกิจโรงแรมเองและเจ้าของธุรกิจ
ความเข้าใจในชุมชนประกอบกับความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่แสดงถึงความใส่ใจทั้งนักท่องเที่ยวและผู้คนในชุมชนคือหัวใจหลักในการปรับปรุงโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะ เภรี
สำหรับโรงแรมที่หัวหิน เราได้เปิดตัวด้วยคอนเซ็ปต์อาหารและเครื่องดื่มใหม่ผ่านร้านอาหารทั้งหมด 3 ร้าน ได้แก่ ร้านอาหารชาวมง (Chow Mong) เภรี เซิร์ฟ ลอดจ์ (Peri Surf Lodge) และติกิ บาร์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบาร์ค็อกเทล ภายหลังการประกาศเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เดอะ เภรี โฮเต็ล หัวหิน มีรายได้จากบริการอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 37 ในด้านห้องพัก แม้ว่าที่ผ่านมาจะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับโรงแรมในการดึงดูดผู้มาเข้าพักแบบค้างคืน แต่เดอะ เภรี โฮเต็ล หัวหินยังมีสัดส่วนรายได้ต่อห้องพักที่มีจำหน่าย (Revenue Per Available Room หรือ RevPAR) ที่ขาดทุนน้อยกว่าเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับโรงแรมคู่แข่งในตลาด (โดยเดอะ เภรี โฮเต็ล หัวหิน มีสัดส่วนรายได้ต่อห้องพักที่ลดลงเพียงร้อยละ 25 ในขณะที่โรงแรมคู่แข่งมีรายได้ต่อห้องพักลดลงถึงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับทั้งตลาด)
สำหรับเดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่ นั้นมีจุดเด่นด้านทำเลที่รายล้อมด้วยทัศนียภาพของขุนเขาจึงสามารถสร้างสรรค์บรรยากาศในแบบที่พักบนภูเขาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารและกิจกรรมที่น่าสนใจใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารชาวบ้าน (Chow Barn) ที่ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาซึ่ง โอบล้อมไปด้วยป่าเขียวชอุ่มและธรรมชาติ และยังโดดเด่นด้วยเสน่ห์ของกรรมวิธีการปรุงอาหารในแบบชาวบ้านแท้ๆ ที่ดึงรสชาติดั้งเดิมของเมนูอาหารรอบกองไฟได้อย่างไร้ที่ติ เดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่ ยังมีผลการดำเนินงานที่น่าพึงพอใจใกล้เคียงกับสาขาที่หัวหิน
เช่นเดียวกับแบรนด์ในเครืออย่างเดอะ สแตนดาร์ดและบังก์เฮาส์ แบรนด์เดอะ เภรี ได้ผสานเอกลักษณ์ของชุมชนท้องถิ่นต่างๆ มานำเสนอผ่านเมนูอาหารและเครื่องดื่ม โดยยังช่วยลดการพึ่งพาการท่องเที่ยวแบบข้ามเขตและเสริมฐานลูกค้าให้แข็งแกร่งและมีความหลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อช่วยสร้างกระแสรายได้ให้กับทางโรงแรม
นอกจากนี้ เดอะ เภรี ยังอยู่ภายใต้การดูแลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำและทีมงานผู้บริหารมากความสามารถจากบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของกลุ่มสแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.theperihotel.com หรือส่งอีเมลมายังทีมพัฒนาธุรกิจของเดอะ เภรี โฮเต็ล ได้ที่ [email protected]
เกี่ยวกับเครือ The Peri Hotel
The Peri Hotel มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ให้ความรู้สึกเปรียบเสมือนบ้านอีกหลัง โดยผู้มาเข้าพักและใช้บริการจะได้พบกับความสุขง่ายๆที่ลงตัว โรงแรมแห่งนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากวิสัยทัศน์ที่ต้องการนำเสนอบริการที่น่าเชื่อถือและใส่ใจในทุกรายละเอียดของแขกที่มาเยือน ทั้งหมดนี้ สะท้อนผ่านแนวคิดที่เน้นความเรียบง่ายและพอดี แบรนด์ The Peri Hotel ได้ต่อยอดรากฐานและตัวตนของ Standard International และได้พลิกโฉมรีสอร์ทสไตล์บูทีคที่มุ่งเน้นรายละเอียดจากภายในเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษของทำเลแต่ละแห่งซึ่งจะตราตรึงอยู่ในความทรงจำอย่างไม่มีที่ใดเหมือน นอกจากนี้ ยังช่วยถ่ายทอดและหลอมรวมวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่นโดยรอบ
เกี่ยวกับ The Standard Hotels
The Standard Hotels ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 โดยเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้สร้างรสนิยมด้านการพักผ่อนผ่านการบุกเบิกงานดีไซน์ และไม่หยุดยั้งที่จะสร้างสรรค์อย่างเหนือมาตรฐาน เป้าหมายของโรงแรมในเครือ The Standard ทั้ง 7 แห่งในนิวยอร์ค ลอสแอนเจลิส ไมอะมี่ และล่าสุดที่ลอนดอนและมัลดีฟส์ พร้อมจะท้าทายทุกข้อกำหนด ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ดิสโก้เธคดาดฟ้า หรือนิตยสาร ทั้งหมดต้องการส่งต่อประสบการณ์ที่พบได้เฉพาะที่ The Standard เท่านั้น ทั้งนี้ ด้วยเอกลักษณ์ด้านความสนุกสนานสุดเหวี่ยงในแบบ The Standard เอง ร่วมกันกับความเข้มข้นในงานดีไซน์ รายละเอียด และบริการ ทำให้เราเป็น ผู้บุกเบิกแห่งวงการอุตสาหกรรมบริการ ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ชีวิตยามค่ำคืน และบริการอื่นๆ ต่อไปได้อีก โดยทาง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยได้เข้าลงทุนใน Standard International ครั้งแรกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 และขณะนี้ แสนสิริได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในที่สุด
ที่มา: แสนสิริ