ครม. ประกาศ วันไมซ์แห่งชาติ 26 เมษายน

พุธ ๐๒ มิถุนายน ๒๐๒๑ ๑๐:๔๑
1 มิถุนายน 2564 กรุงเทพฯ: คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้วันที่ 26 เมษายน ของทุกปีเป็น "วันจัดประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ" เพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงคุณค่าและความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ ยึดตามการเกิดงานแสดงสินค้าครั้งแรกของประเทศเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2425

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้กำหนดวันของอุตสาหกรรมไมซ์ขึ้นมา เรียกว่า "วันจัดประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ" โดยอ้างอิงจากงานวิจัยที่ทีเส็บร่วมดำเนินงานกับกองทุนส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ

"การจัดแสดงสินค้าครั้งแรกของชาติจัดขึ้นวันที่ 26 เมษายน 2425 ด้วยพระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมสินค้าไทยจากทั่วประเทศ และที่สำคัญคือจัดขึ้นกลางท้องสนามหลวง เป็นส่วนหนึ่งของการฉลองพระนครร้อยปี จึงนับว่าเป็นวันสำคัญ เพราะแม้จะผ่านมาเกือบ 140 ปี งานแสดงสินค้าทุกวันนี้ก็มีวัตถุประสงค์เดียวกัน"

การกำหนดวันสำคัญของชาติที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์จะช่วยเพิ่มความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ที่มีต่อการพัฒนาประเทศมาอย่างยาวนานนับแต่อดีต แม้ในปัจจุบันการจัดประชุม การจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการก็เป็นหนึ่งในกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล

โดยนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันพบว่า มีการใช้กิจกรรมไมซ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของชาติ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ยุค คือ ช่วงฟื้นฟูประเทศในตอนต้นรัตนโกสินทร์ (สมัยรัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 3) เป็นการประชุมและแสดงสินค้าเพื่อฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ช่วงสยามสู่เวทีโลก (สมัยรัชกาลที่ 4 - สมัยรัชกาลที่ 8) เป็นปฐมบทสู่เวทีโลก ใช้การจัดประชุมและการแสดงสินค้าเพื่อความภาคภูมิ และปูทางสู่การแก้ไขสนธิสัญญาไม่เป็นธรรมกับนานาประเทศ และช่วงที่สามคือความเป็นปึกแผ่นของอุตสาหกรรมไมซ์ (สมัยรัชกาลที่ 9 จนถึงปัจจุบัน) ก้าวเข้าสู่ไมซ์ยุคใหม่ ที่เกิดสมาคมภาคเอกชนต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ

  นายจิรุตถ์ กล่าวต่อว่า ไมซ์ในปัจจุบันขยายบทบาทไปในการสร้างสรรค์ และพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำ จากนโยบายของทีเส็บที่กระจายการพัฒนา และโอกาสของธุรกิจไมซ์ไปยังผู้ประกอบการ และชุมชนในไมซ์ซิตี้ 10 จังหวัด พร้อมทั้งประเทศไทยครองอันดับหนึ่งด้านการจัดประชุมนานาชาติของอาเซียน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (ปี พ.ศ. 2559-2561) และเป็นประเทศที่มีการจัดประชุมนานาชาติมากที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย รองจากญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้

จากสถิติอุตสาหกรรมไมซ์ไทยนับจากการจัดตั้งทีเส็บมา 16 ปี พบว่าประเทศไทยมีจำนวนนักเดินทางไมซ์จากทั้งในและต่างประเทศ 191,747,994 คน สร้างรายได้ให้กับประเทศ 1,756,739 ล้านบาท ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด 19 อุตสาหกรรมไมซ์ไทยสร้างรายได้ทางตรงและทางอ้อมต่อระบบเศรษฐกิจ 728,540 ล้านบาท และการจ้างงาน 426,616 อัตรา

"แม้ว่าโควิด 19 จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจทุกสาขารวมทั้งไมซ์ แต่การดำเนินงานของทีเส็บที่เน้นพัฒนาระบบ โครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาคนและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่าประเทศไทยพร้อมแข่งขันทันทีเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง"



ที่มา:  ทีเส็บ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO