นายสุชาติ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของสิงคโปร์ที่ให้การดูแลแรงงานไทยที่เข้ามาทำงานในประเทศสิงคโปร์ทุกคนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาที่ได้ดูแลเรื่องการฉีดวัคซีน ความเป็นอยู่และสวัสดิการต่าง ๆ ตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ยังหารือถึงการบริหารจัดการระบบการจ้างงาน การ Matching ตำแหน่งงานให้แก่นักศึกษาจบใหม่เพื่อให้สามารถหางานทำได้และเชื่อมโยงข้อมูลตอบสนองความต้องการของนายจ้างอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการรับแรงงานไทยเข้ามาทำงานในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีแรงงานไทยที่เข้ามาทำงานกว่า 10,000 คน ผ่านกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง 1,827 คน
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ในปี 2565 นายจ้างและสถานประกอบการในประเทศสิงคโปร์มีความต้องการจ้างแรงงานไทยใน 3 สาขา ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ช่างอู่ต่อเรือ และช่างเชื่อมฝีมือ เนื่องจากแรงงานไทยได้รับการชื่นชมในเรื่องทักษะฝีมือการทำงานขั้นสูง ซึ่งเป็นที่ไว้วางใจและพึงพอใจของนายจ้างสิงคโปร์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ที่มีเป้าหมายพัฒนาคนในทุกมิติ
ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงแรงงานได้ยกระดับบริการจัดหางานออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มไทยมีงานทำ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลให้เป็นระบบเดียวกัน จุดเด่นของแพลตฟอร์มไทยมีงานทำสามารถรวบรวมตำแหน่งงานว่างจากเครือข่ายของบริษัทจัดหางานและของภาครัฐ การนำระบบ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจับคู่ (Matching) ตำแหน่งงาน การให้บริการแบบ Single Window ของหน่วยงานภาคี การให้บริการจัดหางานผ่านแอปพลิเคชันไทยมีงานทำ การรวมบริการภาครัฐอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่จุดเดียว การติดตามผลการมีงานทำ ข้อมูลการให้บริการมีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงได้แบบ Real-time พร้อมรวบรวมหลักสูตรพัฒนาทักษะของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คนหางานมีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งงานและมีระดับรายได้เพิ่มขึ้น
ที่มา: กระทรวงแรงงาน