นายสุชาติ กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้คนไทยได้มาทำงานในต่างประเทศ จึงสั่งการให้กระทรวงแรงงานหาแนวทางขยายตลาดแรงงานในต่างประเทศให้มากขึ้น ในวันนี้ผมจึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานและคณะได้หารือกับสมาคมอู่ต่อเรือของสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งสมาคมดังกล่าวเป็นความร่วมมือของ 8 บริษัทขนาดใหญ่ของเกาหลี ที่ผ่านมาปี 2020 มีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีการจ้างแรงงานเพิ่มปีละ 10,000 คน ในสาขาช่างเชื่อม 4,000 คน ทาสี 1,400 คน ไฟฟ้า 1,800 คน เนื่องจากปัจจุบันคนเกาหลีมีอัตราการเกิดน้อยและกำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ เป็นเหตุให้ขาดแคลนแรงงาน ซึ่งในแต่ละปีคนอายุ 15 - 64 ปีที่จะประกอบอาชีพได้ ลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปีนี้ลดลงถึง 3.5 แสนคน จึงจำเป็นต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานด้วยวีซ่า E -7 (วีซ่าทักษะฝืมือ) เป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีนี้รัฐบาลเกาหลีได้เพิ่มโควตานำเข้าแรงงานต่างชาติถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานของบริษัททั้งหมด ที่สำคัญต้องการแรงงานต่างชาติโซนฝั่งเอเชีย ไทยจึงเป็นประเทศหนึ่งและเป้าหมายหลักที่ทางเกาหลีต้องการแรงงานอายุ 24 - 45 ปี เป็นจำนวนมาก
นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ประเทศไทยพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยได้มาทำงานในเกาหลีใต้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ซึ่งกระทรวงแรงงานเองมีความพร้อมทั้งกรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามภารกิจ ซึ่งความคืบหน้าในเรื่องนี้ได้ให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ลงพื้นที่ไปหารือในรายละเอียดกับสมาคมและนายจ้างที่ต้องการจ้างแรงงานไทย ขณะเดียวกันในเร็ว ๆ นี้ ทางการเกาหลีจะส่งผู้แทนเดินทางไปเยี่ยมชมการทดสอบสาขาช่างเชื่อมที่ประเทศไทยด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดส่งแรงงานไทยวีซ่าทักษะฝีมือไปทำงานในอุตสาหกรรมต่อเรือตามความต้องการของเกาหลีโดยเร็วต่อไป
ที่มา: กระทรวงแรงงาน