นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ หรือ "PACO" เปิดเผยว่า " PACO เป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายอะไหล่แอร์รถยนต์แบบครบวงจร ภายใต้แบรนด์ "PACO" มากว่า 30 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ คอยล์ร้อน คอยล์เย็น ท่อแอร์และน้ำยาแอร์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศ และในต่างประเทศ ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และ ทวีปอเมริกาเหนือ และ PACO ได้เปิดตัวกลุ่มสินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครบวงจร อาทิ หม้อน้ำรถยนต์ คอมเพรสเซอร์แอร์รถยนต์ ไดชาร์จ ไดสตาร์ท อะไหล่ช่วงล่างรถยนต์ เช่น ยางรองแท่นเครื่อง โดยผลิตภัณฑ์ PACO ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากเยอรมัน และ สหรัฐอเมริกา ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากลซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลก พร้อมการรับประกันคุณภาพสินค้า 1 ปี เพื่อให้ความมั่นใจกับผู้ใช้รถทุกคน และ ที่สำคัญสามารถช่วยประหยัดค่าอะไหล่ประมาณ 50% เมื่อเทียบกับอะไหล่ของแบรนด์รถยนต์ต่างๆ จึงขอเสนอเป็นทางเลือกสำหรับคนไทยทุกคน ให้ช่วยสนับสนุนสินค้าคนไทย ที่มีมาตรฐานสากล ด้านกลยุทธ์การจัดจำหน่ายนั้น PACO ใช้กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub (พาโก้ ออโต้ ฮับ) เพื่อสร้างแบรนด์ PACO ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขายในประเทศและเสริมความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ แบรนด์ของคนไทย โดยเราตั้งเป้าหมายที่ จะมีร้าน PACO Auto Hub จำนวน 300 สาขาภายในปีนี้ จากปัจจุบันได้เปิดไปแล้วกว่า 250 สาขา ทั่วประเทศ โดยภายในร้านจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คอยล์ร้อนและคอยล์เย็นแบรนด์ PACO เป็นหลัก และมีสินค้าอื่นๆ อาทิเช่น ท่อน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ เพื่อเป็นการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรในที่เดียว (One-Stop Solution)"
PACO ยังเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ทดแทนของไทยรายแรกที่ ได้ผลิต แบตเตอรี่คูลเลอร์ สำหรับ Tesla ซึ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก สำหรับรุ่น Tesla Model X และ Tesla 3 ตลอดจน รถยนต์ Plug-in Hybrid สำหรับ BMW Series 3 และ Series 5 รุ่นปัจจุบัน (G20 และ G30) ซึ่งได้รับความนิยมสูงทั่วโลก โดย PACO เริ่มเปิดตลาดแบตเตอรี่คูลเลอร์ ทั้งตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ จากการที่ภาครัฐได้เตรียมออกมาตรการกระตุ้นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยหนุนให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยกลับมาดีขึ้น รวมถึงหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง จะช่วยส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาฟื้นตัว นอกจากนี้ในช่วงที่สภาวะน้ำมันแพงทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอะไหล่รถยนต์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้อุตสาหกรรมอะไหล่ทดแทน คาดว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภคในเรื่องราคาพร้อมคุณภาพสินค้า ที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงเวลานี้ได้
คุณสมชายกล่าวเสริมว่า " นอกจากเป็นผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ PACO แล้ว บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ธุรกิจ OEM หรือ รับจ้างผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ให้ผู้ผลิตรถยนต์ โดยได้เซ็นต์สัญญากับลูกค้าใหญ่รายแรกคือ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่มุ่งเน้นรถยนต์ไฟฟ้า EV และ Plug-in Hybrid (PHEV) ซึ่ง PACO ได้รับออเดอร์มูลค่าถึง 1,200 ล้านบาท ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงรองรับกว่า 5 ปี สำหรับธุรกิจ OEM และ รองรับรายได้ 10 ปีสำหรับธุรกิจรับจ้างผลิตอะไหล่ (OES) ยิ่งกว่านั้น บริษัทฯ ได้รับการติดต่อจากผู้ผลิตหลายแห่ง เพื่อนำเสนองานรับจ้างผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์และชิ้นส่วนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก PACO เป็นผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ (OEM Manufacturer) ที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี และมีประสบการณ์ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า คือ Battery cooler และ ชิ้นส่วนแอร์รถยนต์สำหรับรถไฟฟ้า (EV) แบบ BEV (Battery EV) และ PHEV (Plug-in Hybrid) ในรูปแบบอะไหล่ทดแทน (REM) เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ" ทำให้บริษัทฯมองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ OEM ที่ชัดเจน มีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวอีกครั้ง จากการทยอยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ จำนวนมากของค่ายรถยนต์เข้าสู่ตลาด และPACO มีไลน์การผลิต อุปกรณ์เครื่องจักรมาตรฐานสากล พร้อมผลิตสินค้าให้ลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม อีกทั้งมีคู่แข่งน้อยรายในธุรกิจ จึงเชื่อมั่นว่า PACO มีโอกาสรับงานรับจ้างผลิต OEM ได้อีกจำนวนมาก" นายสมชายกล่าวปิดท้าย
เกี่ยวกับบริษัท
บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ก่อตั้งมาแล้วกว่า 30 ปี เป็น 1 ในผู้บุกเบิกการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ของไทย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อะไหล่แอร์รถยนต์แบบครบวงจร ทั้ง คอยล์ร้อน และคอยล์เย็น สำหรับรถที่มียอดจำหน่ายปานกลางถึงสูง ทั้งรถญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกัน รวมมากถึง 2,600 รุ่น โดยบริษัทฯ มี โรงงานผลิต 3 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่ ในเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และได้จำหน่ายสินค้าภายในประเทศ และ ส่งออกไปทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ เอเชียและออสเตรเลีย
ที่มา: แบรนด์ เวลท์