สำหรับแรงงานไทยที่เดินทางมาเก็บผลไม้ป่านั้น เป็นช่วงฤดูกาลที่ว่างเว้นจากการทำนาและเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรในประเทศไทย ซึ่งแรงงานเหล่านี้มีรายได้เฉลี่ยนับแสนบาท การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นโครงการบูรณาการความร่วมมือจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข และ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ กระทรวงการต่างประเทศ ในนาม "ทีมประเทศไทย" ซึ่งนำทีมโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำทีมบุคลากรแต่ละหน่วยงานมาให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแก่แรงงานไทย เนื่องจากอาชีพเก็บผลไม้ป่าบางครั้งต้องมีโรคจากการถูกยุง เห็บ แมลงในป่ากัด แรงงานจึงต้องได้รับการดูแลทางด้านสาธารณสุข มีหลักประกันสุขภาพ ตลอดจนสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
นายสุชาติ กล่าวว่า ท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่ได้มีความห่วงใยแรงงานไทยทุกคนที่มาทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากแต่ละคนเป็นเสาหลักของครอบครัวตั้งใจมาทำงานหาเงินส่งกลับเลี้ยงครอบครัวที่ประเทศไทย ซึ่งแต่ละปีมีรายได้ส่งกลับเพื่อพัฒนาประเทศเป็นจำนวนมาก ในวันนี้ท่านจึงมอบหมายให้ผมและคณะได้เดินทางมาเยี่ยมแรงงานไทยที่มาเก็บผลไม้ป่าในประเทศฟินแลนด์ เพื่อต้องการพบปะพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบ เกี่ยวกับความเป็นอยู่ เนื่องจากแรงงานไทยเหล่านี้ต้องจากบ้านมาทำงานในต่างแดน จึงต้องได้รับการดูแลเพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิทั้งด้านประกันสุขภาพหากเจ็บป่วยก็จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน ขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข ที่บูรณาการความร่วมมือในการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้ความรู้แก่แรงงานไทยที่มาเก็บผลไม้ป่าเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของตนเองให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการทำงานและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในครั้งนี้ ในปี 2564 และ ปี 2565 กระทรวงแรงงานได้มีการจัดส่งแรงงานไทยมาทำงานในฟินแลนด์จำนวน รวมทั้งสิ้น 7,902 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกษตรกร คนเก็บผลไม้ป่า คนงานในฟาร์ม คนทำสวน รองลงมาเป็นกุ๊ก พ่อครัวอาหารไทย ซึ่งในแต่ละปีแรงงานเหล่านี้สามารถสร้างรายได้กลับเข้าสู่ประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท
ที่มา: กระทรวงแรงงาน