ก่อนที่จะถึงวันเบาหวานโลก ประจำปี 2565 พีแอนด์จี เฮลท์ (P&G Health) ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลากหลายสาขาวิชาที่มีชื่อเสียงในระดับโลก พร้อมด้วยผู้ประกอบวิชาชีพด้านบริการสุขภาพจากทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ในงานประชุม 'เอาชนะการต่อสู้กับโรคเส้นประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน' (Winning the Fight Against Neuropathy in Diabetic Patients) เพื่อแบ่งปันคำแนะนำเชิงคลินิกในการวินิจฉัยและรักษาความเสียหายของเส้นประสาทในผู้ป่วยโรคเบาหวาน งานดังกล่าวนี้จัดขึ้นใกล้กรุงมะนิลาและถ่ายทอดสดไปยังกว่า 10 ประเทศ และผู้เข้าร่วมราว 3,400 คน โดยมีการนำเสนอคำแนะนำเชิงคลินิกเกี่ยวกับกระบวนการวินิจฉัยอย่างง่ายสำหรับภาวะปลายประสาทอักเสบ ประกอบกับการแบ่งปันประสบการณ์เชิงคลินิกโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
เนื่องจากโรคเบาหวานเป็นสาเหตุหลัก[1]ของภาวะปลายประสาทอักเสบ (PN) อุบัติการณ์ของโรคปลายประสาทอักเสบจึงมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคปลายประสาทอักเสบ รวมถึงโรคปลายประสาทอักเสบเหตุจากเบาหวาน (DPN) เป็นผลของความเสียหายต่อเส้นประสาทที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตเนื่องจากทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย ความเจ็บปวดแสบร้อนและเสียดแทงที่เท้าและมือสามารถก่อผลกระทบอย่างมากต่อการทำกิจกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการเดิน การขึ้นบันได และการนอนหลับ ภาวะปลายประสาทอักเสบมักได้รับการวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยพบเนื่องมาจากการขาดความตระหนักรู้ในทั้งผู้ป่วยและแพทย์[2] นอกจากโรคเบาหวานแล้ว การขาดวิตามินบีและความชราเป็นอีกปัจจัยที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งนำไปสู่ความเสียหายของปลายประสาท
ดร . แอชลีย์ บาร์โลว์ (Ashley Barlow) ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการแพทย์และเทคนิค พีแอนด์จี เฮลท์ (เอเชียแปซิฟิก อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา) กล่าวว่า "ในฐานะพันธมิตรของสหพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation หรือ IDF) พีแอนด์จี เฮลท์ ให้ความสำคัญกับความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาวะปลายประสาทอักเสบและภาวะเส้นประสาทเสียหาย งานประชุม 'เอาชนะการต่อสู้กับโรคเส้นประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน' เป็นรายการแรกในการประชุมทางวิชาการหลายรายการที่จะจัดโดยพีแอนด์จี เฮลท์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างความตระหนักรู้เนื่องในวันเบาหวานโลกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพื่อเน้นย้ำความเชื่อมโยงระหว่างภาวะปลายประสาทอักเสบกับโรคเบาหวาน ตลอดจนความสำคัญของการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกเริ่มและการรักษาอย่างทันท่วงที"
ในการบรรยายในงานประชุมดังกล่าวนี้ ดร. รายาซ เอ มาลิค (Rayaz A. Malik) อาจารย์แพทยศาสตร์ เวลล์ คอร์เนล เมดิซีน (Weill Cornell Medicine) และแพทย์ที่ปรึกษา โรงพยาบาลเพื่อการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยเซนทรัล แมนเชสเตอร์ (Central Manchester University Teaching Hospital) กล่าวว่า "ภาวะปลายประสาทอักเสบมีปัญหาจากการไม่ได้รับการวินิจฉัยในระดับสูงมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง เนื่องจากขาดแนวทางที่เป็นเอกฉันท์ในการตรวจคัดกรองเป็นประจำและวิธีการวินิจฉัย ภาวะดังกล่าวนี้มีผลกระทบใหญ่หลวงต่อคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นผลจากอาการทางเส้นประสาทที่มีความเจ็บปวด ภาวะแผลที่เท้า และการต้องตัดอวัยวะ โดยมีอัตราการเสียชีวิตระยะในเวลา 5 ปีที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ 40% และ 80% ตามลำดับ ด้วยเหตุนี้ ความตระหนักรู้และความรู้สึกถึงภาวะฉุกเฉินในผู้ป่วยและผู้ให้บริการสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็น และแพทย์ผู้ให้บริการขั้นปฐมภูมิต้องมีเครื่องมือและแนวทางอย่างง่าย เพื่อช่วยในการตรวจวินิจฉัยภาวะปลายประสาทอักเสบ"
"งานประชุม 'เอาชนะการต่อสู้กับโรคเส้นประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน' ของพีแอนด์จี เฮลท์ ได้เผยมุมมองเชิงลึก ข้อมูล และแนวทางปฏิบัติเชิงคลินิกที่เป็นประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากทั่วโลกและในภูมิภาคแห่งนี้ เกี่ยวกับบทบาทของการวินิจฉัย การรักษา และการบริหารจัดการโรคเส้นประสาทในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคเบาหวาน" ดร. แอชลีย์ บาร์โลว์ กล่าวเสริม
"แม้การตรวจพบผู้ป่วยที่มีภาวะปลายประสาทอักเสบระยะแรกเริ่มอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้นและไม่ได้ต้องใช้เครื่องมือวินิจฉัยที่ซับซ้อนในการตรวจวินิจฉัยภาวะปลายประสาทอักเสบ เครื่องมือง่าย ๆ อย่างเช่นแบบสอบถามและการทดสอบประสาทสัมผัสสามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ด้วยการถามคำถามที่ถูกต้องและการรับฟังผู้ป่วย เราสามารถช่วยให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขาได้ แพทย์ผู้ให้บริการขั้นปฐมภูมิมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้" ดร. รายาซ เอ มาลิค กล่าวเสริม
เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานประชุม 'เอาชนะการต่อสู้กับโรคเส้นประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน' ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโปรดลงทะเบียนและเรียนรู้จากการสัมมนาออนไลน์ได้ที่ สัมมนาออนไลน์ระดับโลกวันเบาหวานโลก (WDDglobalwebinar)
สรุปข้อมูลน่าสนใจ
- ในปี 2564 มีผู้ป่วยโรคเบาหวานจำนวน 393 ล้านรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะพุ่งแตะหลัก 603 ล้านรายในปี 2588[3]
- 1 ใน 2 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานมีภาวะปลายประสาทอักเสบ[4]ในช่วงชีวิต ด้วยความแพร่หลายที่เพิ่มขึ้นของโรคเบาหวาน จำนวนผู้ป่วยภาวะปลายประสาทอักเสบในภูมิภาคเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
- มีผู้ป่วยที่มีภาวะก่อนเบาหวานมากเท่า ๆ กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และอย่างน้อย 10% มีภาวะปลายประสาทอักเสบ[5]
- การศึกษาวิจัยจากฟิลิปปินส์ในปี 2543 จากโครงการไดอาบแคร์-เอเชีย (Diabcare-Asia) ซึ่งประเมินผู้ป่วย 2,708 คนในศูนย์โรคเบาหวาน รายงานว่ามีความแพร่หลายของโรคเส้นประสาทเหตุเบาหวาน 42% จากข้อมูลการรักษาทางการแพทย์[6]
- แพทย์ไม่ถึง 1 ใน 3 รับรู้ได้ถึงสัญญาณของโรคเส้นประสาทจากเบาหวาน ซึ่งเคสที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยมีส่วนอย่างมากต่ออัตราการป่วยและการเสียชีวิตของโรคเบาหวานในระดับสูง[3] นอกจากนี้ ผู้ป่วยจำนวนมากถึง 50% ไม่มีอาการ ดังนั้นจึงมักไม่ได้รับการวินิจฉัยและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บโดยที่ไม่รู้ตัว[7]
- หากไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือและรักษาแต่เนิ่น ๆ โรคเส้นประสาทจากเบาหวานอาจลุกลามจนกลายเป็นความเจ็บปวดทางระบบประสาทที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อคุณภาพชีวิต
เกี่ยวกับ P&G Health
P&G Health คือ แผนกผลิตภัณฑ์กลุ่มสุขภาพของบริษัท P&G ซึ่งถือหลักการผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สุขภาพผู้ป่วยดีขึ้นและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจากบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพทางด้านระบบประสาท ทางเดินหายใจ ทางเดินอาการ วิตามินและเกลือแร่
เกี่ยวกับบริษัท พรอคเตอร์แอนดแกมเบิล ( P&G)
P&G เป็นบริษัทด้านสินค้าอุปโภคบริโภคระดับแนวหน้า มีกิจการใน 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ผลิตภัณฑ์ดูแลเสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนัง และผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงและเด็ก
อ้างอิง :
1. Landmann G. Ars Medici. 2013;1: 18-21
2. Malik, Rayaz et. al. Journal of Diabetes Investigation. 11. 10.1111/jdi.13269.
3. International Diabetes Federation. IDF Diabetes Atlas. 10th edition; 2021.
4. Kumar S, et al. Laser Therapy 2016;25: 141-144
5. Kirthi V et. al. BMJ Open Diabetes Res Care. 2021 May;9(1):e002040
6. Lantion-Ang LC. Diabetes Res Clin Pract 2000; 50 (Suppl 2): S29-S34.
7. Miranda-Massari JR, et al. Curr Clin Pharmacol. 2011;6: 260-273.
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1944999/PG2.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1945000/PG1.jpg