ผลสำรวจล่าสุดจากเฟดเอ็กซ์ชี้ 'ความยั่งยืน' เป็นปัจจัยสำคัญ ในการเลือกซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ

จันทร์ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๐๒๒ ๑๑:๐๘
ผลจากการสำรวจของเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (FedEx Express) บริษัทในเครือเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (FedEx Corp.) (NYSE: FDX) หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนที่ใหญ่ที่สุดของโลก ในเรื่องเทรนด์ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) พบว่าในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่หันไปค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกำลังมองข้ามความใส่ใจของผู้บริโภคในมุมมองด้านความยั่งยืนซึ่งผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 9 ใน 10 คน คาดหวังในเรื่องความยั่งยืนจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่พวกเขาเลือกใช้บริการ และชัดเจนว่า 'ความยั่งยืน' เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความแตกต่างในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของพวกเขาอีกเช่นกัน การมีแผนงาน ESG ก็เป็นจุดที่สร้างความแตกต่างที่ชัดเจนให้แก่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากพบว่าผู้บริโภคมากกว่า 8 ใน 10 รายเห็นตรงกันว่าปัจจัยดังกล่าวทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้น
ผลสำรวจล่าสุดจากเฟดเอ็กซ์ชี้ 'ความยั่งยืน' เป็นปัจจัยสำคัญ ในการเลือกซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ

เจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในไทยกว่า 88% ที่ร่วมตอบแบบสอบถามเห็นเช่นเดียวกันว่าปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าของพวกเขาคำนึงถึงในการตัดสินใจซื้อสินค้าคือระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว มากกว่าประเด็นทางด้านความยั่งยืน และเช่นเดียวกันที่ SME กว่า 83% คิดว่าการซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกที่สุดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภค แต่ข้อมูลจากการสำรวจพบผลปรากฎที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ผลสำรวจ What's Next in E-Commerce survey ได้จัดทำขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการสำรวจในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงผู้บริโภคจาก 11 ประเทศในทวีปเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA) มีจุดประสงค์เพื่อสำรวจวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเหล่านี้ อีกทั้งเพื่อให้เห็นถึงแนวโน้มที่จะช่วยกระตุ้นการเติบโตต่อไปในอนาคต

ผลการวิจัยที่สำคัญ: ผู้บริโภคใส่ใจความยั่งยืนมากกว่าความรวดเร็วในการจัดส่ง

ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็เกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในขณะเดียวกันก็พบว่าผู้บริโภคเกิดความใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ผู้คนคำนึงถึงอนาคตของโลกใบนี้เป็นสิ่งแรก พวกเขาจึงให้ความสำคัญทั้งทางด้านความยั่งยืนและความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า โดยไม่ต้องการการต่อรอง จากผลสำรวจพบว่า 70% ของผู้บริโภคที่ร่วมตอบแบบสอบถามทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA) ให้ความสำคัญกับเรื่องความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้าเท่ากับประเด็นทางด้านความยั่งยืนเมื่อพูดถึงการช้อปปิ้งออนไลน์

ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า สัดส่วนจาก 9 ใน 10 ของผู้บริโภคในประเทศไทย คาดหวังว่าบริษัทอีคอมเมิร์ซที่พวกเขาใช้บริการจะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และผู้บริโภคจาก 8 ใน 10 ต้องการที่จะใช้บริการจากบริษัทที่มีแผนงานตามแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน หรือ "ESG" ซึ่งย่อมาจาก Environnent, Social, และ Gouvernance และดำเนินงานตามแผนจนเกิดผลที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่มี SME เพียง 40% ที่ดำเนินงานตามแผนดังกล่าว อย่างไรก็ตามกว่าครึ่งหนึ่งของ SME ในไทยในปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพัฒนานโยบาย ESG ด้วยความคาดหมายในการดำเนินการให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด

มุ่งสู่การขนส่งอย่างยั่งยืน

"ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือกสำหรับ SME ในการขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซอีกต่อไป เนื่องจากผู้บริโภคมองเห็นประเด็นความยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งไม่อาจต่อรองได้ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขา" กล่าวโดย คาวาล พรีท ประธานภูมิภาค AMEA ของเฟดเอ็กซ์ เอ็กซเพรส และเสริมอีกว่า "SME สามารถสร้างความแตกต่างได้ทันที โดยคำนึงถึงกระบวนการขนส่งที่เชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานในทุกทิศทางสู่ผู้บริโภค โดย FedEx มีมาตรการที่จับต้องได้หลายอย่างเพื่อลดผลกระทบของการขนส่งต่อโลก"

เฟดเอ็กซ์มีการติดตามหลากหลายช่องทางเพื่อให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกิดขึ้นจากวงจรการขนส่ง และเพื่อบรรลุตามเป้าหมาย carbon net zero operations by 2040 ขั้นตอนดังกล่าวรวมถึงการลงทุนในยานพาหนะระบบไฟฟ้าเพื่อการขนส่ง บรรจุภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืน และโซลูชั่นส์เพื่อให้บริการแก่ผู้บริโภคในรูปแบบดิจิตอล เช่น FedEx Delivery Manager International ซึ่งช่วยสร้างตัวเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเลือกสถานที่และเวลาในการจัดส่งสินค้าได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังช่วยย่นระยะทางของการจัดส่งให้สั้นลงได้อีกด้วย

"ผู้บริโภคชาวไทยกำลังมองหาทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์" นายเทียนหลง วูน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประเทศไทยกล่าว โดยเสริมอีกว่า "เฟดเอ็กซ์สามารถช่วยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งได้ โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเราได้เปิดตัวรถยนต์ขนส่งไฟฟ้าสำหรับใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก"

สำหรับ SME การดำเนินงานตามแผน ESG เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพเกิดจากการมีผลประโยชน์ร่วมทั้งแบบกลุ่ม และ รายบุคคล มากกว่า 80% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกิดจาก องค์กรที่จำเป็นต้องดำเนินกิจการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยตรง โดยเป็นก๊าซเรือนกระจกที่เล็ดลอดออกมาจากภายในพื้นที่การผลิตของห่วงโซ่อุปทานของพวกเขา ผู้ให้บริการการขนส่งซึ่งเป็นดั่งผู้เชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานมีบทบาทในการสร้างความมั่นใจว่าบริการของเขามีผลกระทบต่อโลกน้อยที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามความคาดหวังของผู้บริโภค

ที่มา: เวเบอร์ แชนด์วิค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO