นายภูษิต ศศิธรานนท์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด ตัวแทน โคโลญเมสเซ่ ประเทศไทย กล่าวว่า "โคโลญเมสเซ่ และเมสเซ่ สตุ๊ตการ์ท ต่างมีความมุ่งมั่นร่วมกันมาอย่างยาวนานในการจัดงานนิทรรศการและการประชุมด้านการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง didacta (ดิแดคต้า) ซึ่งมีความครอบคลุมตั้งแต่การศึกษาปฐมวัย การฝึกฝนทักษะ และ Life Long Learning โดยจัดขึ้นทุกปี สลับระหว่าง 2 เมืองในประเทศเยอรมนี คือ โคโลญ และสตุ๊ตการ์ท
งาน didacta asia (ดิแดคต้า เอเชีย) นับเป็นงานนิทรรศการสื่อการศึกษาและการประชุมนานาชาติระดับโลก ที่ทั้งสองรัฐวิสาหกิจได้ร่วมกันจัดขึ้นเป็นครั้งแรกบนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในธีมของ 'การกำหนดทักษะแห่งอนาคต - Shaping the Future of Skills' ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีสำคัญสำหรับรวบรวมผู้เชี่ยวชาญและผู้กำหนดนโยบายด้านการศึกษา เพื่อมาแลกเปลี่ยนความรู้ ไอเดีย ประสบการณ์ รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา บนเวทีการประชุม didacta asia Congress, didacta Digital, Expert Forum & Workshop, Skill Competition นับเป็นโอกาสการสร้างธุรกิจยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมการศึกษา โดยประมาณการมียอดผู้เข้าร่วมงานกว่า 6,000 รายจาก 20 ประเทศ ผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 200 บริษัททั่วโลก หัวข้อสัมมนาและเวิร์คช้อปกว่า 25 เซสชั่น ภายใต้พื้นที่การจัดงาน 5,400 ตารางเมตร เพื่อยกระดับและสร้างศักยภาพให้การศึกษาในไทยและภูมิภาคฯ ให้เติบโตไปอีกขั้น
อีกทั้งงานนี้ ยังมีการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมโปรไฟล์สื่อการศึกษามาไว้ในสถานที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น ด้านของเล่นและเกมเพื่อการศึกษา, ระบบเพื่อการศึกษาอย่าง STEMs, ระบบเทรนนิ่งในรูปแบบ AR/VR, อุปกรณ์ eLearning/ICT, เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์สันทนาการ เครื่องดนตรี รวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือเรียน นิทาน เป็นต้น อีกทั้งงานจะได้รับการสนับสนุนโดยความร่วมมือที่เข้มแข็งทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นแนวหน้าด้านการศึกษาของไทย อาทิ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.), คุรุสภา, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน), สถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, จส. 100 และอินสครู"
ด้านของ นายไรน์ฮาร์ด โคสลิตซ์ กรรมการผู้จัดการ ดิแดคต้า - สมาคมอุตสาหกรรมการศึกษาแห่งประเทศเยอรมนี กล่าวว่า "เราได้มีการจัดงานนิทรรศการและการประชุมด้านการศึกษาร่วมกับพันธมิตรไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2548 หรือกว่า 17 ปี โดยนำโมเดลของงาน didacta Germany มาใช้ ซึ่งเป็นงานฯ ที่ใหญ่และได้รับการยอมรับมากที่สุดงานหนึ่งของโลก จากตัวเลขผู้จัดแสดงสินค้ามากถึง 900 บริษัท และผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 90,000 รายต่อการจัดงานฯ ทำให้มั่นใจได้ว่าหลังจากการแพร่ระบาดหยุดลงในปีนี้ งาน didacta asia จะกลับมานำเสนอผลิตภัณฑ์ องค์ความรู้จากโปรแกรมสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการที่จัดตั้งไว้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างอนาคตที่ดีของเยาวชนและอนาคตทางศึกษาที่ดีที่สุดให้กับภูมิภาคฯ"
ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า "didacta asia (ดิแดคต้า เอเชีย) เป็นงานที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย จากการเข้ามาช่วยส่งเสริมภาคการศึกษาได้ในหลายด้าน ทั้งการเพิ่มความรู้ความสามารถของครูและบุคลากรด้านการศึกษา การแนะนำและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน จนถึงการเสริมสร้างความสามารถในการสร้างสื่อการสอนคุณภาพสูง ผ่านกิจกรรมและการอบรม รวมไปถึงผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ถูกนำมาจัดแสดงในงานฯ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของงาน didacta asia (ดิแดคต้า เอเชีย) โดยเน้นที่การจัดแสดงกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีคุณภาพที่สามารถปฏิบัติจริงผ่านการนำเสนอแบบ Interactive Learning Experience เรียนรู้โดยการทำ การสัมผัส และการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ เพื่อเสริมทักษะการฝึกคิด ฝึกสังเกต โดยนำสื่อและอุปกรณ์จากโครงการ 'จัตุรัสวิทยาศาสตร์ภูมิภาค' มาจัดแสดง"
didacta asia (ดิแดคต้า เอเชีย) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 ตุลาคม 2566 นี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานได้ที่ เว็บไซต์: www.didacta-asia.com
ที่มา: โฟร์ฮันเดรท