นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ของ TRP ที่ได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.71% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566
ปัจจุบัน TRP อยู่ระหว่างการเตรียมนำเสนอข้อมูลบริษัทแก่นักลงทุน (โรดโชว์) เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งของธุรกิจให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นและเข้าใจภาพรวมธุรกิจชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) ภายในปีนี้
สำหรับ TRP เป็นผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ "ธีรพรคลินิก" ให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป ก่อตั้งโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าประเทศไทย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งบนใบหน้ามากว่า 40 ปี พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านศัลยกรรม มีเครื่องมือแพทย์ครบครัน ทันสมัย และมีมาตรฐานระดับสากล ที่พร้อมให้บริการใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
- การให้บริการหัตถการเกี่ยวกับผ่าตัด ได้แก่ ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ด้วยนวัตกรรม Face-Lock เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ บนใบหน้า, ศัลยกรรมตาสองชั้น ด้วยเทคนิค Eye-Lock เทคนิคเฉพาะที่คิดค้นโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ และทีมแพทย์ธีรพร รวมถึงศัลยกรรมผ่าตัดจมูก และศัลยกรรมส่วนอื่นๆ ของใบหน้า
- การบริการให้ยาระงับความรู้สึกทางหลอดเลือดดำ โดยวิสัญญีแพทย์ที่มีความชำนาญ
- การบริการที่ไม่เกี่ยวกับการผ่าตัด เช่น การฉีด Botox, การฉีด Filler การใช้อุปกรณ์ยิงคลื่นความถี่เพื่อกระชับผิว, การให้วิตามินหน้าใส และให้บริการผิวพรรณอื่นๆ เช่น การอบแสง LED การฉีดเมโสแฟต และการร้อยไหม เป็นต้น
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของบริษัท เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถโอกาสการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทฯ มีแผนนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนในการขยายกิจการในโครงการต่าง ๆ เช่น การพัฒนาการวิจัยในด้านต่าง ๆ การก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้า และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการของบริษัทในอนาคต
ที่ผ่านมา TRP ได้มุ่งมั่นให้บริการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าด้วยความตั้งใจ เพื่อสร้างสรรค์ความสวยงามให้กับผู้มารับบริการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากผลการดำเนินงาน 3 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2563-2565 บริษัท มีรายได้รวม 221.60 ล้านบาท 427.76 ล้านบาท และ 854.07 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 37.15 ล้านบาท 112.68 ล้านบาท และ 270.27 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 369.05 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 105.48 ล้านบาท
ทั้งนี้ TRP พร้อมก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจการให้บริการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าที่เติบโตตามอัตราของจำนวนผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสอดรับเทรนด์ความสวยความงามที่เปิดกว้างมากขึ้นในปัจจุบันและมีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งการทำศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้า โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะที่คิดค้นและพัฒนาโดยทีมศัลยแพทย์ของธีรพร ไม่เพียงช่วยแก้ไขทุกปัญหาให้กับผู้ใช้บริการได้อย่างตรงจุด แต่ยังช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นและเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตและการเข้าสังคม ทำให้ TRP เป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการทุกเพศทุกวัยมาโดยตลอด นับเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมศักยภาพให้ TRP มีศักยภาพและความพร้อมสูงในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต
"การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ เพื่อให้ TRP สามารถขยายธุรกิจรองรับการเติบโตของตลาดศัลยกรรมความงามในประเทศไทย และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจตามกลยุทธ์ให้บริษัทเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน ตอกย้ำศักยภาพผู้นำธุรกิจให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย" ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ กล่าว
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น