ฟิลเตอร์ วิชั่น "FVC" ส่องทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 66 สดใส งัดแผนเจาะฐานลูกเดิมกระตุ้นกำลังซื้อใหม่ หนุนรายได้ทั้งปีโต 20%

ศุกร์ ๑๕ กันยายน ๒๐๒๓ ๑๔:๒๔
บมจ. ฟิลเตอร์ วิชั่น (FVC) ส่งสัญญาณธุรกิจครึ่งปีหลังสดใสรับการฟื้นตัวของภาพรวมอุตสาหกรรม พร้อมประกาศแผนลุยขยายฐานลูกค้าเดิม หวังกระตุ้นกำลังซื้อใหม่และเน้นตลาดที่มีกำลังซื้อ ชูความเป็นผู้นำเทคโนโลยีบำบัดและฆ่าเชื้อในน้ำในกลุ่มธุรกิจ B1 ด้านกลุ่มธุรกิจ B2 คึกคักรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ส่งผลบวกกับอุตสาหกรรมอาหารมีการสั่งอุปกรณ์กรองน้ำ รวมถึงงานบริการดูแลบำรุงรักษาต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ B3 มีการขยายสาขาประมาณ 4 - 8 แห่ง และเครื่องไตเทียมประมาณ 60 - 70 เครื่อง พร้อมลุยสร้างโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียมตามแผน หนุนรายได้รวมทั้งปีโต 20%

ดร.วิจิตร เตชะเกษม ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC เปิดเผยว่า ภาพธุรกิจครึ่งปีหลัง 2566 มีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส โดยได้แรงหนุนจากยอดคำสังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำที่เติบโต 20% พร้อมมุ่งเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิมและกระตุ้นให้มีการซื้อสินค้าใหม่ รวมถึงการขยายตลาดเข้าในพื้นที่ที่บริษัทฯ มีศักยภาพในการแข่งขันและตลาดมีกำลังซื้อ นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังคงสานต่อกลยุทธ์การตลาดที่ต้องการเป็นผู้นำเทคโนโลยีบำบัดและฆ่าเชื้อในน้ำมาช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า บริษัทฯ มีการขยายงานอย่างต่อเนื่องในการนำเสนองาน ผลิตภัณฑ์และโครงการสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมชั้นนำขนาดใหญ่ ปัจจุบันการให้บริการในส่วนกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) ของ FVC มีคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าแล้ว 16 งานมูลค่ารวม 53.52 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน ปี 2566 จึงมั่นใจว่ารายได้ของธุรกิจในกลุ่ม (B1) เติบโตได้ตามเป้าวางไว้

ส่วนกลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศกลับมาคึกคักรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจอื่น ๆ โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร ส่งผลคำสั่งซื้ออะไหล่ ไส้กรอง อุปกรณ์กรองน้ำ รวมถึงงานบริการดูแลบำรุงรักษา เริ่มกลับมาทยอยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสอดรับกับการที่ลูกค้าเตรียมแผนงานติดตั้งระบบน้ำใหม่ ประกอบกับจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ส่งผลให้ลูกค้ามีความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ความสะอาดของอาหารและเครื่องดื่มเกี่ยวกับการจัดการเรื่องเชื้อปนเปื้อนในอาหาร ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโอโซน เช่น เครื่องผลิตน้ำดื่มไฮโดรเจนและน้ำโอโซนให้กับลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มยอดขายในกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าใหม่ในพื้นที่การตลาดใหม่เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด ปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าแล้ว ในส่วนของงานติดตั้งเครื่องกรองน้ำและงานจำหน่ายเครื่องผลิตน้ำแข็ง มูลค่ารวม 15.28 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยติดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2567

และกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) ภายใต้การบริหารของบริษัทในเครือบมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส (KTMS) มีการขยายธุรกิจตามแผน ปัจจุบัน KTMS ปัจจุบันบริษัทมีแผนสำหรับการขยายสาขาและเพิ่มเครื่องไตเทียมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในไตรมาสที่ 3 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี2566 จะขยายสาขาประมาณ 4 - 8 แห่ง และเครื่องไตเทียมประมาณ 60 - 70 เครื่อง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ด้าน บริษัท เนโฟรวิชั่นจำกัด ปัจจุบันบริษัทมีแผนสำหรับการเปิดสาขาและซื้อเครื่องไตเทียมในปี 2566 โดยคาดว่าภายในไตรมาสที่ 3 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 จะเปิดสาขา 1 - 2 แห่ง และซื้อเครื่องไตเทียมประมาณ 16 - 24 เครื่อง และเปิดสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่ จังหวัดลำพูนในเร็วๆนี้

ส่วน บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งระบบนำจากลูกค้าแล้ว 11 โครงการมูลค่ารวม 6.77 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการสร้างโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม หลังจากได้เข้าซื้อที่ดิน โครงการ Factor Square ลำลูกกาคลอง 9 ที่จังหวัดปทุมธานี ขนาดพื้นที่ 2 ไร่ โดยมีมูลค่ารวม 70 ล้านบาท ด้านบริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 7 โครงการ มูลค่ารวม 10.88 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งคาดว่าจะติดตั้งได้แล้วเสร็จในไตรมาส 3 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2566

"จากความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องมั่นใจว่าเป้าหมายรายได้ปี 2566 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ระดับ 20% ตามแผน ส่วนในอนาคตบริษัทมีแผนจะแยกสัดส่วนรายได้จาก 3 ธุรกิจออกให้ชัดเจน พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจที่เกิดความและให้มีความเหมาะสมต่อการดำเนินงาน และคาดใน 2-3 ปีข้างหน้า อัตราการเติบโตโดยรวมของบริษัทมีโอกาสที่จะสูงถึง 30% ซึ่งจะเห็นจากการขยายศูนย์บริการไตเทียมของ KTMS หรือกลุ่ม B3 ส่วนกลุ่ม B2 คาดในอนาคตจะเติบที่ระดับ 15-20% ขณะที่ B1 ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง" ดร.วิจิตร กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO