Humane Society International เปิดตัวด้วยการมอบการฝีกอบรบ 6 วันให้กับทีมเชฟของโรงแรม โดยผสมผสานทฤษฎีให้เข้ากับวิธีการปรุงอาหารจากพืชเพื่อให้เหล่าเชฟได้รับการถ่ายทอดถึงเทคนิคการปรุงอาหารและความรู้ในการปรับสูตรอาหารใหม่ๆ ที่น่ารับประทาน อาทิเช่น เทมเป้สะเต๊ะ ซินนามอนเฟรนซ์โทสต์ เนื้อไก่จากเห็ดยามาบูชิตาเกะ และบานาน่าเครีมพายจิงเจอร์เบรดครัสท์ โรงแรมแบง ค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค จะเริ่มปรับเปลี่ยนเมนูอาหารโดยเริ่มจากเมนูอาหารเช้าที่จะเพิ่มเมนูแพลนท์เบสเข้ามามากขึ้น
สตีเฟน โด เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟของโรงแรมกล่าวว่า "ที่แมริออท เราตระหนักดีว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีผู้คนมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก การเดินทางอย่างยั่งยืนกลายเป็นคีย์เวริ์ดสำหรับนักเดินทางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้คนต่างมองหาวิธีลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่ว่าจะโดยการเลือกวิธีการเดินทางหรือที่พักที่เน้นความยั่งยืนมากขึ้น หรือโดยการเลือกสรรอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นักเดินทางต่างชาติเริ่มตระหนักถึงผลที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจในเรื่องต่างๆของตนเองมากขึ้นและเรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาสามารถสร้างความแตกต่างได้
ด้วยความช่วยเหลือจากโครงการแพลนท์เบสของ Humane Society International เราจึงมั่นใจที่จะเสิร์ฟเมนูอาหารที่มาจากพืชเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมอบทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพแก่ลูกค้า ซึ่งมาพร้อมด้วยรสชาติที่ถูกปาก"
จันจรี เชียรวิชัย ผู้จัดการฝ่ายนโยบายอาหารประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ HSI กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เพื่อเพิ่มเมนู อาหารทางเลือกที่ทำมาจากพืช ซึ่งเราคาดว่าจะสามารถช่วยชีวิตสัตว์ได้เกือบ 9,000 ตัวต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 150,000 กิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับการเดินทางรอบโลกถึง 14 เที่ยว ภายใต้โครงการแพลนท์เบสเราให้การสนับสนุนเชฟทั่วโลกในการเรียนรู้วิธีสร้างสรรค์เมนูอาหารที่เป็นมิตรต่อสัตว์ ผู้คน และสิ่งแวดล้อม เมื่อทุกคนเข้าถึงเทคนิคต่างๆ ในการปรุงอาหารจากพืช คุณจะสนุกไปกับการค้นพบสูตรอาหารใหม่ๆ ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครและให้รสชาดิที่ถูกปากอย่างน่าอัศจรรย์ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค กำลังสร้างตัวอย่างที่ดีงามและมีความหมายสำหรับภาคการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิก ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นเพื่อลดการใช้โปรตีนจากสัตว์ลงให้ได้ 20% ภายในสองปีข้างหน้า เป้าหมายและหลักชัยแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วเอเชียแปซิฟิกให้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเมตตา มีความยั่งยืน และสร้างคุณค่าทางโภชนาการ"
ที่มา: โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค