เมย์แบงก์แนะหุ้นเด่น 3 ธีมหลัก น่าลงทุนในไตรมาส 3 ปี 2567 ด้วยปัจจัยบวกที่เริ่มส่งผลดี

พุธ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ๑๑:๒๒
หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ผู้นำด้านการลงทุน ซึ่งถือหุ้นโดย เมย์แบงก์ ธนาคารอันดับ 1 ของมาเลเซีย ได้แนะนำหุ้นเด่น 3 ธีมหลักสำหรับการลงทุนในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 จากการวิเคราะห์พบว่าปัจจัยหนุนต่าง ๆ เริ่มส่งผลดีต่อตลาด โดยแม้จะมีสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่แน่นอนและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างรุนแรง แต่นักวิเคราะห์ของเมย์แบงก์ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อดัชนีหุ้นไทย (SET) โดยเชื่อว่าการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐและการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงโมเมนตัมของกำไรตามที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า โดย เมย์แบงก์ได้นำเสนอหุ้นใน 3 ธีมหลักสำหรับการลงทุน ได้แก่ เน้นหุ้นโครงสร้างพื้นฐานรอรับอานิสงส์จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และหุ้นกลุ่มอัตรากำไรเพิ่มขึ้น
เมย์แบงก์แนะหุ้นเด่น 3 ธีมหลัก น่าลงทุนในไตรมาส 3 ปี 2567 ด้วยปัจจัยบวกที่เริ่มส่งผลดี

หุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน: TASCO, SCCC, CK

TASCO: ได้รับประโยชน์จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ โดยคาดว่าปริมาณยางมะตอยจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าและอัตรากำไรของยางมะตอยซีเมนต์เพิ่มขึ้นเป็น 12,000 บาทต่อตัน ในขณะที่ SCCC คาดว่าราคาปูนซีเมนต์จะสูงขึ้นและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้าง และ CK อาจจะมี Backlog เพิ่มขึ้นสองเท่าหากสามารถเซ็นสัญญาจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว: AOT, CENTEL, BH

AOT ได้รับประโยชน์จากคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 36-41 ล้านคนในปี 2567-2568 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นรายได้ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ในขณะที่ CENTEL น่าจะมีกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากโรงแรมในญี่ปุ่นและการท่องเที่ยวในประเทศไทย และคาดการณ์ว่า BH จะมีกำไรเติบโต 15% ในปี 2567 จากการเพิ่มจำนวนเตียงและการปรับราคา รวมถึงการทำ MOU ด้านการรักษาพยาบาลกับซาอุดิอาระเบีย

หุ้นกลุ่มอัตรากำไรเพิ่มขึ้น: GPSC, ADVANC

เมย์แบงก์คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นในเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมจะขยายตัวขึ้นในปี 2567 นี้ (ยกเว้นกลุ่มพลังงานและยานยนต์) ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตของกำไรสุทธิโดยรวมของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะ GPSC และ ADVANC ที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทรนด์นี้ โดยเราคาดว่า GPSC จะได้ประโยชน์จากราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง ในขณะที่ ADVANC จะได้ประโยชน์จากการปรับค่าบริการและต้นทุนด้านการตลาดที่ต่ำลง

ถึงแม้จะมีความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา แต่เมย์แบงก์ยังมีมุมมองเป็นบวกเหตุด้วยปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และคาดว่าจะกลับมาโตแบบเร่งตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในช่วงครึ่งปีหลังและการเติบโตของการท่องเที่ยว ซึ่งเราคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์กลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสสามและสี่ของปีนี้

นักลงทุนที่สนใจรับคำปรึกษาด้านการลงทุนจากมืออาชีพระดับโลก สามารถติดต่อเปิดบัญชีกับเมย์แบงก์ได้แล้ววันนี้ที่ App Maybank Invest หรือ ติดต่อได้ที่ 02 658 5050

ที่มา: ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๖ ก.ย. บริษัท เอดด้า บูนาเดอร์ จำกัด ร่วมกับ โรงพยาบาลลานนา ตรวจสุขภาพพนักงาน สิทธิประกันสังคม ประจำปี 2567
๐๖ ก.ย. ดั๊บเบิ้ล เอ รับข่าวดีทริสเรตติ้งปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น บวก พร้อมเผยผลกำไร Q2'67 พุ่ง 23%
๐๖ ก.ย. เจมาร์ท โมบาย จับมือ Viu (วิว) เอาใจลูกค้ามอบสิทธิ์ดูซีรีส์ ฟรี! แบบจุใจ ผ่านแพ็กเกจ Viu Premium
๐๖ ก.ย. CPW ฉลองเปิดร้าน dotlife เซ็นทรัลพิษณุโลกโฉมใหม่ พร้อมให้ช้อปแล้ววันนี้
๐๖ ก.ย. CHAYO ร่วมสนับสนุนช่วยเหลือคนพิการยากไร้ และสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงห้องเยี่ยมญาติเรือนจำธัญบุรี
๐๖ ก.ย. NPS ร่วมเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกิจกรรมรักษ์ป่าเขาหินซ้อนตามแนวพระราชดำริ
๐๖ ก.ย. ค่านิยมองค์กรสู่เอกลักษณ์ที่โดดเด่น มหาวิทยาลัยหัวเฉลิมพระเกียรติ
๐๖ ก.ย. BC ลั่น Q2/67 พลิกกลับมาเทิร์นอะราวด์ทำกำไร EBITDA โตต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติด ลุ้นขายโครงการใหม่หนุนปีนี้พลิกทำกำไร เปิดตัวโครงการใหม่ ลุยแผน ICO ยื่นไฟลิ่งเร็วๆ
๐๖ ก.ย. ซัมซุง นำเสนอโซลูชั่น SmartThings Pro และ AirCare Solution มุ่งยกระดับการบริหารจัดการอาคารและที่พักอาศัยด้วยเทคโนโลยี IoT
๐๖ ก.ย. FTI ปันน้ำใจบรรเทาภัยน้ำท่วม บริจาคถุงยังชีพ ผู้ประสบภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา