แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเป็นพื้นฐานสำคัญ ของการมีสุขภาพดี แนวคิดเวชศาสตร์วิถีชีวิตจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชน โดยมุ่งเน้นการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรสาธารณสุข โดยเฉพาะพยาบาล สหวิชาชีพ และโค้ชสุขภาพ ซึ่งจะทำงานร่วมกับแพทย์เวชศาสตร์วิถีชีวิต ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและเป็นธรรม เกิดการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดบริการสุขภาพที่ก่อให้เกิดรายได้ให้กับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเอกชน
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทยมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับกรมอนามัยและมหาวิทยาลัยบูรพาในการขับเคลื่อนงานด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการพัฒนาสุขภาพของประชาชนไทยในระยะยาว การร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นการเสริมหนุนให้แพทย์เวชศาสตร์วิถีชีวิตที่สมาคมฯ และกรมอนามัยได้ร่วมผลิตแล้ว ไปทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพด้วยการมีทีมเวชศาสตร์วิถีชีวิตที่มีคุณภาพไปร่วมกันทำงาน นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งให้กับวงการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย
รองศาสตราจารย์ ดร.พรชัย จูลเมตต์ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวเสริมว่า มหาวิทยาลัยบูรพามีความมุ่งมั่นในการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านการพยาบาลและสหวิชาชีพ เพื่อสนับสนุนบริการด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรและนักศึกษาในการนำความรู้และนวัตกรรมไปใช้ในการดูแลสุขภาพของประชาชน พร้อมกันนี้ สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ได้จัดอบรมหลักสูตร Lifestyle Coach (LC) รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม - 20 กันยายน 2567 นี้ด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในกำลังคนที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิตและการสร้างสังคมไทยสุขภาพดี พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาสุขภาพของประชาชนไทย และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนงานด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ สร้างบริการสุขภาพปฐมภูมิที่เข้มแข็ง บริการสุขภาพที่ก่อให้เกิดรายได้ให้กับประเทศไทยต่อไป
ที่มา: กรมอนามัย