สุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า "การปรับปรุงโรงกีฬา 3 ศูนย์กีฬาเบญจกิติ ให้เป็นสนามมาตรฐานสำหรับการเล่นโยคะ วอลเลย์บอล และจักรยานสปินนิ่งไบค์ จำนวน 50 คัน พร้อมด้วยอุปกรณ์กีฬาที่ทันสมัย และครบครัน คือหนึ่งในความตั้งใจของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ไทยเบฟเวอเรจ และเดอะ ปาร์ค ในการส่งมอบสังคมสุขภาพดีให้กับประชาชน พร้อมทั้งสนับสนุนให้คนกรุงเทพฯ มีทางเลือกในการทำกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะมากขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนด้านกีฬายังมีบทบาทสำคัญ ในการเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากร ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน"
พ.อ.อ. นัฐพงษ์ เกษาพันธ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เสริมว่า "ทางสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย โดยท่านนายกสมาคมฯ 'คุณสมพร ใช้บางยาง' ได้ให้คำแนะนำในสร้างสนามวอลเลย์บอล ในโรงกีฬา 3 ว่าควรมีขนาด อุปกรณ์ ตลอดจนพื้นสนามชนิดใดที่เหมาะสม เพื่อช่วยป้องกันการบาดเจ็บ ในมุมของผมเอง มองว่า สมัยเด็กผมไม่มีโอกาสได้เล่นในสนามที่มีมาตรฐาน ต้องหาอุปกรณ์มาทำเสา และตาข่ายเอง แต่ด้วยความกระหายที่จะเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้ติดทีมชาติ และตอนนี้เรามีโรงกีฬาที่ได้มาตรฐานจากการสนับสนุนของทุกฝ่าย ต้องขอบคุณมาก ๆ เพราะสนามที่สร้างขึ้นนี้มีคุณภาพมาตรฐาน สามารถฝึกทุกทักษะที่จำเป็นสำหรับวอลเลย์บอลได้ครบถ้วน ผมเชื่อว่าในอนาคต หากเด็ก ๆ และเยาวชนได้ใช้สนามนี้ พวกเขาจะพัฒนาทักษะ และความสามารถของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม"
ด้าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการรับมอบโรงกีฬาว่า "กรุงเทพมหานครมุ่งมั่นพัฒนาสุขภาพประชาชนอย่างต่อเนื่อง 'ศูนย์กีฬาเบญจกิติ' เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่รวมกีฬาไว้หลากหลาย เช่น บาสเกตบอล พิคเคิลบอล แบดมินตัน และฟุตซอล ในช่วงเริ่มพัฒนาโรงกีฬา 3 ทาง กทม. ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนว่า ต้องการพื้นที่สำหรับสปินนิ่งไบค์ วอลเลย์บอล และโยคะ ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยม แต่ยังขาดสนามที่จะรองรับกีฬา 3 ประเภทนี้ เราจึงพัฒนาร่วมกันจนสำเร็จ ปัจจุบันศูนย์กีฬาแห่งนี้มีผู้ใช้บริการมากถึงหมื่นคนต่อสัปดาห์ ช่วยส่งเสริมสุขภาพกาย และใจของประชาชน ผู้สนใจสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวกสบาย"
ด้วยทำเลที่โดดเด่นของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ซึ่งเชื่อมโยงกับสวนเบญจกิติ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับผู้ที่มาออกกำลังกายที่สวนเบญจกิติ ไม่ว่าจะเป็น Sports Zone ที่ให้บริการอุปกรณ์กีฬา คลินิก และฟิตเนสเฉพาะ รวมถึงบริการห้องอาบน้ำ Shower Station นอกจากนี้ ยังมีโซนร้านค้า ร้านอาหาร และเครื่องดื่มมากมาย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพ และการออกกำลังกาย รองรับการใช้ชีวิตแบบแอคทีฟไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ
สำหรับประชาชนที่ต้องการมาออกกำลังกายที่โรงกีฬา 3 ศูนย์กีฬาเบญจกิติ สามารถเข้าใช้บริการได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05:00 - 22:00 น. โดยสามารถจองใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน CSTD Smart Member หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: Benchakitti Sports Center
ที่มา: โอกิลวี่