แอลจี เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567

จันทร์ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๗ ๑๕:๐๒
สร้างสถิติการทำรายได้สูงสุดในช่วงไตรมาส 3 และคงการเติบโตต่อเนื่องปีต่อปีติดต่อกันถึง 4 ไตรมาส
แอลจี เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ จำกัด (แอลจี) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 กวาดรายได้รวม 22.18 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 53.99 แสนล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงานที่ 751.9 พันล้านวอน (หรือประมาณ 1.83 หมื่นล้านบาท) ถือเป็นสถิติการทำยอดรายได้รวมสูงสุดที่เคยมีมาสำหรับไตรมาส 3 ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานสูงเป็นอันดับที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของบริษัท

ในช่วงไตรมาส 3 มีปัจจัยภายนอกหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการชะลอการฟื้นตัวของดีมานด์ในตลาดที่ยืดเยื้อออกไป และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยความท้าทายเหล่านี้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขนส่งระหว่างประเทศ ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น

แม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยที่เป็นอุปสรรคดังกล่าว แอลจียังสามารถรักษาการเติบโตของรายได้แบบปีต่อปีได้อย่างต่อเนื่องถึง 4 ไตรมาสติดต่อกัน ด้วยการยกระดับพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการและโมเดลทางธุรกิจ และการขยายการดำเนินงานในภาคธุรกิจ B2B สิ่งเหล่านี้ช่วยให้แอลจีสามารถชดเชยเรื่องการเพิ่มขึ้นของต้นทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในบางส่วน และทำให้บริษัทสามารถรักษาผลกำไรได้จากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการแข่งขันขั้นพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

ในอนาคต แอลจีวางแผนที่จะขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนทางธุรกิจให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการขยายบริการสมัครสมาชิก (Subscription) การขายให้ผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ (D2C) และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าที่เน้นยอดขายจำนวนมาก (Volume Zone) นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องในภาคธุรกิจ B2B พร้อมทั้งการขยายธุรกิจด้านคอนเทนต์และธุรกิจด้านบริการบนแพลตฟอร์มอีกด้วย

สำหรับกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศของแอลจี สร้างรายได้ในไตรมาส 3 คิดเป็นมูลค่า 8.34 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท) และมีกำไรจากการดำเนินงาน 527.2 พันล้านวอน (หรือประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดรายได้รวมเติบโตขึ้น 11.7% และกำไรจากการดำเนินงานเติบโตขึ้น 5.5% และถึงแม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยภายนอกที่ท้าทาย ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าของแอลจีก็ยังสามารถทำผลงานได้ดีเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ตอกย้ำถึงศักยภาพในการแข่งขันระดับแนวหน้า แม้ว่าความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วโลกจะฟื้นตัวอย่างล่าช้าก็ตาม แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วของโมเดลธุรกิจแบบสมัครสมาชิก และธุรกิจ HVAC (เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์) สำหรับกลุ่ม B2B ก็ช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้ แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของต้นทุนด้านโลจิสติกส์ในช่วงครึ่งปีหลังจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกำไรจากการดำเนินธุรกิจ แต่บริษัทก็ยังสามารถทำผลงานได้ดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ด้วยการเติบโตของรายได้และศักยภาพการแข่งขันในด้านการผลิตที่โดดเด่น

สำหรับในช่วงไตรมาส 4 มีการคาดการณ์ว่าสภาพตลาดจะค่อยๆ ฟื้นตัว ตามการปรับตัวในเชิงบวกของดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นตลาดสำคัญ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยแอลจีวางแผนที่จะกระจายสายการผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และกลยุทธ์ด้านราคาเพื่อตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดเกิดใหม่ พร้อมทั้งขยายธุรกิจใหม่เช่น บริการสมัครสมาชิก และการขายให้ผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อรักษาการเติบโตของรายได้ โดยบริษัทจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการตลาดตามช่วงเวลาสำคัญต่างๆ เพื่อรักษาความสามารถในการสร้างผลกำไร

ด้านกลุ่มธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีมูลค่าผลประกอบการในไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.75 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท) และมีผลกำไรจากการดำเนินงาน 49.4 พันล้านวอน (หรือประมาณ 1.2 พันล้านบาท) โดยมีรายได้เติบโตขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากยอดจัดส่งที่เพิ่มขึ้นในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับทีวี OLED แม้ว่าจะมีภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาจอ LCD แต่การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจคอนเทนต์และการให้บริการบนแพลตฟอร์ม webOS ก็ช่วยลดผลกระทบต่อกำไรในภาพรวมได้

มีการคาดการณ์ว่าตลาดทีวีในช่วงไตรมาส 4 จะมีการเติบโตขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับเริ่มต้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแอลจีมีแผนที่จะปรับกลยุทธ์ให้ยืดหยุ่นตามความเปลี่ยนแปลงของความต้องการในตลาดทีวี พร้อมเร่งการเติบโตผ่านการขยายความร่วมมือด้านแพลตฟอร์ม webOS เพื่อเพิ่มฐานผู้ใช้งานให้มีจำนวนมากขึ้น

ในส่วนของกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ของแอลจี มียอดรายได้ในไตรมาส 3 คิดเป็นมูลค่า 2.61 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 6.4 หมื่นล้านบาท) และมีผลกำไรจากการดำเนินงาน 1.1 พันล้านวอน (หรือประมาณ 27 ล้านบาท) โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการชะลอตัวของความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงานก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน อันเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาที่เพิ่มขึ้นสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ (SDV) และการลงทุนล่วงหน้าเพื่อรองรับการผลิตตามปริมาณคำสั่งซื้อ

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลาดในไตรมาส 4 จะยังคงรักษาแนวโน้มการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม การเติบโตมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงเนื่องจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงตัว โดยแอลจีมีแผนที่จะมุ่งเน้นการเติบโตของยอดขายจากฐานคำสั่งซื้อที่มีอยู่ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของตำแหน่งทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์หลัก ซึ่งรวมถึงระบบเทเลเมติกส์ ระบบนำทางและความบันเทิงในรถยนต์ และมอเตอร์ นอกจากนี้ บริษัทจะยังคงเดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกด้านอย่างต่อเนื่องและมุ่งเน้นการสร้างผลกำไร

กลุ่มธุรกิจโซลูชันสำหรับองค์กร มีผลประกอบการในไตรมาส 3 คิดเป็นมูลค่า 1.4 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท) และขาดทุนจากการดำเนินงาน 76.9 พันล้านวอน (หรือประมาณ 1.9 พันล้านบาท) โดยรายได้เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ อาทิ จอเกมมิ่งมอนิเตอร์ และป้าย LED รวมถึงการได้รับคำสั่งซื้อขนาดใหญ่สำหรับผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ในกลุ่มลูกค้าองค์กร อย่างไรก็ตาม การขาดทุนจากการดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากราคาจอ LCD ที่ปรับตัวสูงขึ้น ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และการเพิ่มการลงทุนในการพัฒนาธุรกิจใหม่ภายในบริษัท

ในไตรมาส 4 คาดการณ์ว่าความต้องการผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ รวมถึงจอเกมมิ่งมอนิเตอร์และป้าย LED จะเติบโตในอัตราเลขสองหลักเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในด้านคอมพิวเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI PC) มีแนวโน้มที่จะช่วยกระตุ้นความต้องการแล็ปท็อประดับ พรีเมียม บริษัทจึงวางแผนที่จะขยายการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์และมุ่งเน้นการปรับปรุงผลกำไรผ่านการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน ภายหลังจากมติคณะกรรมการบริษัทในเดือนที่ผ่านมา แอลจีได้ตัดสินใจยุติการดำเนินธุรกิจแบตเตอรี่ ส่งผลตั้งแต่การรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับการจัดประเภทเป็นการดำเนินงานที่ถูกยกเลิกในงบการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงตัวเลขรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงานย้อนหลังด้วย

ที่มา: แอลจี-วัน ประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ