นายเจนวิทย์ ยกบัตร รักษาการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวว่า "นับตั้งแต่ IAM ได้รับโอนหนี้จากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เมื่อเดือนมิถุนายน 2560 มูลค่ากว่า 48,000 ล้านบาท โดยเป็นลูกค้าที่ไม่ใช่มุสลิม ในช่วงที่ผ่านมา IAM เดินสายไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมโครงการแก้หนี้ต่าง ๆ ของรัฐบาล ปัจจุบัน IAM สามารถแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและช่วยเหลือลูกค้าในการไกล่เกลี่ยชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ หรือปิดบัญชีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ลูกค้ารายใหญ่ภาคธุรกิจ ให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง จำนวนกว่า 11,300* ราย เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 12,700* ล้านบาท"
(*ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567)
ในส่วนของทรัพย์มือสอง ปัจจุบัน IAM มีทรัพย์สินรอการขายมูลค่ารวมกว่า 1,600* ล้านบาท ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ ห้องชุด ที่ดินเปล่า โรงงาน และโรงแรม เป็นต้น กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งนี้รายงานจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) คาดการณ์ว่าในปี 2567 ตลาดบ้านมือสองมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 5 - 10% ตามภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัย เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลและทิศทางดอกเบี้ยที่อาจมีการปรับตัวลดลง 0.25% - 0.50%
(*ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567)
นายเจนวิทย์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "IAM มีภารกิจที่ต้องดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามแผนยุทธศาสตร์ขององค์กรในแต่ละปี ซึ่งการปรับภาพลักษณ์ของ IAM ในครั้งนี้ เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพื่อให้เข้าถึงลูกค้า ของ IAM ได้อย่างทั่วถึง ตอบโจทย์ด้วยภาพลักษณ์การดำเนินงานด้วยความจริงใจ พร้อมช่วยเหลือลูกค้า อีกทั้งยังสร้างความสุขให้กับคนที่ต้องการบ้านเพื่ออยู่อาศัย หรือมองหาโอกาสในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการบริหารงานที่ทันสมัย รวดเร็ว และเป็นธรรม สร้างความเชื่อมั่นต่อกลุ่มเป้าหมายในการเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่พร้อมให้บริการอย่างจริงใจเพื่อคนไทย" นายเจนวิทย์ ยกบัตร รักษาการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวย้ำถึงการปรับโฉมของ IAM ในครั้งนี้
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย หรือเพื่อลงทุน IAM มีส่วนลดสูงสุดถึง 30% สามารถติดต่อเพื่อขอข้อมูลและคำปรึกษาหรือเลือกชมทรัพย์ได้ที่ โทร.0-2555-5999 หรือคลิก https://www.iam-asset.co.th/npa
IAM บริหารสินทรัพย์อย่างจริงใจ...เพื่อคนไทย