ขณะเดียวกันได้เตรียมพร้อมระบบระบายน้ำและสถานีสูบน้ำของ กทม. อาทิ อุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง สถานีสูบน้ำ 195 แห่ง ประตูระบายน้ำ 242 แห่ง และบ่อสูบน้ำที่ระบายน้ำช่วยในท่อ 434 แห่ง พร้อมทั้งลดระดับน้ำในแก้มลิงให้อยู่ในระดับต่ำตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จัดหน่วย BEST เข้าพื้นที่ขณะที่มีฝนเริ่มตก ตรวจสอบและเร่งระบายน้ำตามจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่จุดเสี่ยง จุดเฝ้าระวังและบริเวณทางอุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ จัดเก็บขยะหน้าตะแกรงช่องรับน้ำฝน ขยะหน้าตะแกรงหน้าสถานีสูบน้ำ จัดเก็บขยะวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำเพื่อให้ไหลได้สะดวกรวดเร็ว จัดเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานีสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำและบ่อสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองประจำสถานีสูบน้ำ กรณีไฟฟ้าขัดข้อง เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต) รถเครน รถบรรทุกติดตั้งเครนยกไฮโดรลิค บอลลูนไลท์ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อติดตั้งและตรวจสอบแก้ไขเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ การจัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอสำหรับเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลที่ใช้งานในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม รวมถึงให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง นอกจากนี้ กทม. ได้เปิดช่องทางการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝน เพื่อให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้า และการรับแจ้งเหตุน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านเว็บไซต์ https://dds.bangkok.go.th/, https://pr-bangkok.com หรือเพจเฟซบุ๊ก "@BKK.BEST" "สำนักงานประชาสัมพันธ์" Twitter:@BKK_BEST, สำนักงานประชาสัมพันธ์ หรือโทร 0 2248 5115 หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ สนน. ได้ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของท่อระบายน้ำ ทางระบายน้ำ และระบบระบายน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลักที่มีการก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าและโครงการขนาดใหญ่ โดยแจ้งและกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้รับจ้างโครงการให้ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในพื้นที่ก่อสร้างและรายงานผลการดำเนินงานให้ สนน. ทราบเป็นประจำทุกเดือน ตรวจสอบการเบี่ยงแนวท่อระบายน้ำ (By Pass) ให้น้ำสามารถไหลได้สะดวก หากพบปัญหาติดขัดในการระบายน้ำจะประสานแจ้งโครงการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในจุดก่อสร้าง เพื่อเร่งระบายน้ำเข้าระบบระบายน้ำของ กทม. ต่อไป
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวว่า สสล. ได้ประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนักและพายุลมแรง เพื่อความปลอดภัยประชาชน พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะในเขตเมืองที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุลมแรง โดยประสานหน่วยงานซึ่งรับผิดชอบต้นไม้บนถนนสายหลัก สายรอง ทางเท้า สวนหย่อม สวน 15 นาที และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ออกตรวจตราความสมบูรณ์ของต้นไม้ หากพบความเสี่ยงต่อการหักโค่น หรือได้รับผลกระทบจากลมพายุ ให้ดำเนินการตัดแต่งกิ่งแห้งและกิ่งผุ ตรวจสอบลำต้น หาร่องรอยการเข้าทำลายของแมลง ตัดแต่งต้นไม้ตามหลักรุกขกรรม เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง ลดการต้านลม และป้องกันการโค่นล้ม สำรวจและประเมินความเสี่ยงเพิ่มเติม กรณีมีการคาดการณ์ว่าพายุอาจรุนแรงในช่วงเวลาถัดไป เพื่อดำเนินการแก้ไขเชิงป้องกัน จัดเตรียมหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง สำหรับแก้ไขเหตุฉุกเฉิน เช่น ต้นไม้หักโค่นกีดขวางถนน หรือทับบ้านเรือนประชาชน พร้อมประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากพบต้นไม้อยู่ในสภาพเสี่ยงโค่นล้ม หรือระสายไฟฟ้า สามารถแจ้งข้อมูลและพิกัดต้นไม้ได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่ หรือแอปพลิเคชัน Traffy Fondue เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตัดแต่งต้นไม้ กิ่งไม้ รวมถึงเก็บกวาดกิ่งไม้ หรือต้นไม้ที่หักโค่นกีดขวางในที่สาธารณะ และหากประชาชนมีประสงค์ขอรับบริการตัดแต่งต้นไม้ในบ้าน สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตพื้นที่ อัตราค่าบริการตามระเบียบที่ กทม. กำหนดไว้
ที่มา: กรุงเทพมหานคร