เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องด้านสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพในประเทศไทย บริษัทไฟเซอร์ ได้มุ่งเน้นความพยายามและกำหนดยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาในหลากหลายสาขาเพื่อการรักษาและป้องกันโรค ได้แก่ ยามะเร็ง การดูแลสุขภาพเบื้องต้น ซึ่งรวมถึงด้านอายุรกรรมและวัคซีนตลอดจนการดูแลเฉพาะทางที่ครอบคลุมการรักษาโรคในกลุ่มการอักเสบ ภูมิคุ้มกันวิทยา การเข้ารักษาในโรงพยาบาล รวมทั้งกลุ่มโรคหายากที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบเรื้อรัง นอกจากนี้ ไฟเซอร์ยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพ (Antimicrobial resistance, AMR) และการส่งเสริมแนวทางบริหารจัดการการใช้ยาต้านจุลชีพอย่างเหมาะสม (Antimicrobial Stewardship, AMS) ความมุ่งมั่นเหล่านี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวของไฟเซอร์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยผ่านวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์และความร่วมมือ
ด้วยการดำเนินงานในประเทศไทยมายาวนานเกือบ 7 ทศวรรษ ไฟเซอร์มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนด้านสาธารณสุขผ่านการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ปัจจุบันบริษัทเดินหน้าสานต่อพันธกิจในการนำเสนอ "นวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย" ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมการป้องกันและการรักษา ขยายโอกาสในการเข้าถึง และสนับสนุนเป้าหมายด้านสาธารณสุขระดับชาติ โดยมุ่งเน้นพื้นที่ ๆ ยังขาดโอกาสทางการรักษา เพื่อยกระดับผลลัพธ์ด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคน
ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการรักษาโรคมะเร็ง
โรคมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ไฟเซอร์ในระดับโลกได้ลงทุนในงานวิจัยและพัฒนาด้านเนื้องอกวิทยาหรือยามะเร็งขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาเป้าหมายใหม่ในการรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน และการแพทย์แม่นยำเพื่อมอบทางเลือกที่เหมาะสมและตรงกับแต่ละบุคคลยิ่งขึ้น โดยจะเห็นถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรระดับโลก รวมถึงบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์จีนอย่าง 3SBio เพื่อขยายศักยภาพด้านการวิจัยและการพัฒนายารักษาแบบใหม่ เช่น โครงการ SSGJ-707 แอนติบอดีชนิด Bispecific ซึ่งสามารถจับแอนติเจนที่แตกต่างสองชนิดพร้อมกันได้ คือ PD-1 และ VEGF ซึ่ง PD-1 คือ โปรตีนที่พบบนผิวเซลล์เม็ดเลือดขาวบางชนิด มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบ
ภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยทำหน้าที่เป็น "เบรก" เพื่อป้องกันไม่ให้ภูมิคุ้มกันทำร้ายเซลล์ปกติของร่างกายมากเกินไป ในกรณีของโรคมะเร็ง เซลล์มะเร็งสามารถใช้กลไก PD-1 นี้เพื่อหลบเลี่ยงการถูกทำลายจากระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น ยาที่ออกฤทธิ์ต่อต้าน PD-1 จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้รับรู้และกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น และ VEGF เป็นโปรตีนที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของหลอดเลือดใหม่ในร่างกาย โดยปกติ VEGF มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและสร้างหลอดเลือดใหม่ในกระบวนการสมานแผล แต่ในมะเร็ง VEGF จะถูกผลิตในปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ที่หล่อเลี้ยงเนื้อร้ายมะเร็ง ช่วยให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตและแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น การออกฤทธิ์ยาต้าน VEGF จะช่วยลดการสร้างหลอดเลือดเหล่านี้ ทำให้จำกัดการเจริญเติบโตของมะเร็งซึ่งข้อตกลงกับ 3SBio เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายตลาดและการพัฒนาแบบครบวงจร โดยไฟเซอร์ได้รับสิทธิ์ในการพัฒนา ผลิต และจำหน่าย SSGJ-707 ทั่วโลก ยกเว้นในประเทศจีน พร้อมแผนผลิตในสหรัฐฯ และสิทธิ์เลือกขยายการตลาดในจีน ความร่วมมือนี้ตอกย้ำพันธกิจของไฟเซอร์ในการเร่งส่งมอบนวัตกรรมยาให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งทั่วโลก ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า
"เรามุ่งมั่นทำงานอย่างไม่ย่อท้อเพื่อนำเสนอการรักษาโรคมะเร็งที่ช่วยยืดอายุและคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม ปอด และไต วิสัยทัศน์ของเรา คือ เปลี่ยนโรคมะเร็งจากโรคที่คุกคามชีวิตให้กลายเป็นภาวะที่สามารถควบคุมได้" คุณมาร์ค คาว ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของไฟเซอร์กล่าว
กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านยามะเร็งของไฟเซอร์นับว่าครอบคลุมมากในอุตสาหกรรม และบริษัทยังยึดมั่นในการร่วมมือกับภาครัฐ โรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์เพื่อขยายโอกาสเข้าถึงนวัตกรรมการรักษาเหล่านี้
ดูข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่ Pfizer Completes Licensing Agreement with 3SBio | Pfizer
เสริมสร้างการป้องกันและรับมือโรคระบบทางเดินหายใจ
โรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง ยังคงเป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ไฟเซอร์จึงดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและจัดการการติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น โรคปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส หรือไอพีดี ไวรัส RSV และโควิด-19 รวมถึงการผลักดันวัคซีนและยาต้านไวรัสรุ่นใหม่ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้อนุมัติวัคซีนป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจที่สำคัญ 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบชนิดใหม่ที่ครอบคลุมสายพันธุ์เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสสาเหตุโรคปอดอักเสบมากถึง 20 สายพันธุ์ เป็นวัคซีนที่พัฒนาจากวัคซีนในรุ่นก่อนหน้าที่มีการใช้ทั่วโลกมากว่า 20 ปี โดยเพิ่มสายพันธุ์ในวัคซีน เพื่อให้ครอบคลุมสายพันธุ์ที่ก่อโรครุนแรงได้กว้างขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยรุนแรง ตั้งแต่เด็กอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป รวมถึงครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว และวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันในทั้งเด็กเล็กและผู้สูงวัย
วัคซีนที่ได้รับอนุมัติเหล่านี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรการป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจในประเทศไทย ช่วยลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต ลดภาระค่าใช้จ่ายของระบบสาธารณสุข และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชากรกลุ่มเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ องค์ความรู้และนวัตกรรมวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายของไทยในการสร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้กับประชาชนทุกกลุ่มวัย
"สุขภาพทางเดินหายใจเป็นพื้นที่ ๆนวัตกรรมและการป้องกันต้องควบคู่กัน และเราภูมิใจที่ได้สนับสนุนกิจกรรมรณรงค์สาธารณสุข ตลอดจนแคมเปญให้ความรู้และสร้างความตระหนักผ่านสื่อดิจิทัล เพื่อคุ้มครองครอบครัวคนไทยทุกเพศทุกวัย" คุณมาร์คกล่าวเสริม
ส่งเสริมและสนันสนุนสุขภาพที่แข็งแรงสำหรับคนไทยทุกคน
"ที่ไฟเซอร์ เรามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนในการนำเสนอนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย เราไม่ได้เน้นเพียงการสร้างสรรค์ยาและวัคซีน แต่ยังมุ่งมั่นสร้างความไว้วางใจ เสริมสร้างระบบสาธารณสุข และขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางสุขภาพ" คุณมาร์ค กล่าว
เมื่อประชากรไทยมีแนวโน้มสูงอายุและความต้องการด้านสุขภาพมีความซับซ้อนมากขึ้น ไฟเซอร์ยังคงยืนยันความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรกับภาครัฐ แวดวงการแพทย์ และทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับการดูแลที่เหมาะสมและสมควรได้รับเพราะตระหนักดีว่าความท้าทายด้านสุขภาพในประเทศไทยต้องอาศัยการร่วมมืออย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ด้วยความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไฟเซอร์จะไม่หยุดยั้งในการคิดค้น นำเสนอยาและวัคซีนที่เป็นนวัตกรรมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลรักษาและเพิ่มโอกาสเข้าถึงนวัตกรรมที่มีคุณค่าให้แก่ประชาชนไทยทุกคน
"เราเชื่อมั่นว่าการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชากรเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ไฟเซอร์จึงยืนหยัดเคียงข้างสังคมไทย ส่งเสริมการเรียนรู้และการแบ่งปันองค์ความรู้ เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี" คุณมาร์ค กล่าว
